โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 ได้กล่าวในการแถลงต่อสื่อที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ เมื่อ 19 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และทีมงานหาเสียง ยังคงไม่ล้มเลิกความพยายามเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้ง รวมถึงท่าทีของทรัมป์ที่ยังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งดังกล่าวนั้น เป็นการทำลายกลไกและหลักการประชาธิปไตยของอเมริกาในสายตาชาวโลก

ไบเดน กล่าวในตอนหนึ่งว่า "ความพยายามของทรัมป์ แสดงถึงความไม่รับผิดชอบ สิ่งที่ประธานาธิบดีกำลังทำอยู่ขณะนี้ .. จะเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เขาจะถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ในฐานะประธานาธิบดีที่ขาดความรับผิดชอบที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา .. ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร แต่มันไร้ความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง "

เมื่อถูกถามเรื่องผลการเลือกตั้งในบางมลรัฐที่ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ เนื่องจากยังไม่มีการลงนามรับรองโดยนายทะเบียนเลือกตั้งประจำรัฐ และยังไม่ถึงกำหนดการที่คณะผู้เลือกตั้งทั้ง 538 คนจะประชุมรับรองผลการเลือกประธานาธิบดี ซึ่งมีขึ้นวันที่ 14 ธ.ค. นี้ ว่าที่ปธน.คนที่ 46 กล่าวว่า "การเลือกตั้งครั้งนี้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าผลการเลือกตั้งมีความชอบธรรม โดยเขาและแฮร์ริสจะเข้าสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. 2564 อย่างแน่นอน"

ทั้งนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมงานหาเสียงของทรัมป์กำลังดำเนินการร้องเรียนผลการเลือกตั้งต่อศาลท้องถิ่นในบางมลรัฐที่เป็น 'สวิงสเตท' ที่รัฐเนวาดา เพื่อหวังพลิกให้ทรัมป์เป็นผู้คว้าชัยชนะ หรือ ไม่รับรองให้ผู้สมัครคนใดเป็นผู้ชนะ หรือ ให้ผลการนับคะแนนทั้งหมดเป็นโมฆะ รวมถึงทีมงานยังยินยอมจ่ายเงินจำนวน 90 ล้านบาท เพื่อขอให้มีการนับคะแนนใหม่ในรัฐวิสคอนซิน โดยอ้างเรื่องการทุจริตผลการเลือกตั้ง 

ไบเดน คว้าชัย แม้นับคะแนนใหม่ใน 'จอร์เจีย'

ที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งมีการนับบัตรเลือกตั้งใหม่ทั้งหมดที่มีอยู่ราว 5 ล้านใบ ผลปรากฎว่า โจ ไบเดน ยังกุมคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งในรัฐจอร์เจีย 16 เสียง ได้ไม่เปลี่ยนแปลง แม้มีการนับคะแนนใหม่ด้วยมือ หลังจากที่ผลการนับคะแนนในรอบแรกนั้น คะแนนเสียงระหว่างไบเดน กับ ทรัมป์ สูสีอย่างมาก ซึ่งตามกฎหมายการเลือกตั้งของรัฐจอร์เจีย ระบุว่าหากผู้สมัครทั้งสองมีคะแนนเสียงส่วนต่างไม่เกิน 0.5% สามารถเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ได้

สำหรับผลคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการที่รัฐจอร์เจีย โจ ไบเดน ได้รับ 2,475,141 คะแนน คิดเป็น 49.51% ส่วน โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับคะแนนเสียง 2,462,857 คะแนน คิดเป็น 49.24% มีส่วนต่างราว 14,152 คะแนน ห่างกันเพียง 0.29% โดยนายทะเบียนเลือกตั้งรัฐจอร์เจียได้ลงนามรับรองผลคะแนนดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้ว