ไม่พบผลการค้นหา
กรมคุมประพฤติ เผยสถิติ 4 วันช่วงเทศกาลสงกรานต์ (10-13 เม.ย.) เมาแล้วขับถูกจับคุมประพฤติพุ่ง 2,084 คดี ขณะจ.สมุทรปราการ แชมป์คดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด  154 คดี รองลงมา จ.บุรีรัมย์ 144 คดี

วิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่ 4 ของการคุมเข้มในวันสงกรานต์ (13 เม.ย. 2564) ซึ่งศาลปิดทำการหลายพื้นที่ ทำให้สถิติคดีเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ เพียง 160 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา 159 คดี คิดเป็น 99.38% คดีขับเสพ 1 คดี คิดเป็น 0.62%

ในส่วนของการติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไล EM กับผู้กระทำผิดเมาแล้วขับไม่มีเพิ่มเติม ยังคงตัวเลขสะสม 4 วันอยู่ที่ 8 ราย โดยมีเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 น. – 04.00 น. เป็นระยะเวลา 15 วัน

ทั้งนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศเฝ้าติดตามและควบคุมดูแลผู้กระทำผิดตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring Control Center - EMCC) พร้อมประสานเครือข่ายภาคประชาชน อาสาสมัครคุมประพฤติ เตรียมพร้อมลงพื้นที่หากมีการผิดเงื่อนไขคุมความประพฤติ 

สำหรับยอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติในช่วง 4 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด (10-13 เม.ย.2564) มีจำนวนทั้งสิ้น 2,095 คดี จำแนกเป็น

  • คดีขับรถในขณะเมาสุรา 2,084 คดี คิดเป็น 99.47%
  • คดีขับเสพ 11 คดี คิดเป็น 0.53%

จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1 ยังคงเป็นจังหวัดสมุทรปราการ 154 คดี อันดับสอง จังหวัดบุรีรัมย์ 144 คดี และ อันดับสาม จังหวัดชัยภูมิ 140 คดี

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวต่อว่า สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย และผู้ถูกคุมความประพฤติ ลงพื้นที่ช่วยเหลือสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ณ ด่านชุมชน ด่านตรวจค้น และจุดบริการประชาชนบนถนนสายรอง จำนวน 82 จุด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 442 คน ร่วมกันแจกน้ำดื่ม ทำความสะอาด ตรวจวัดอุณหภูมิ เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ใช้รถ ใช้ถนนอย่างปลอดภัย นอกจากนี้สำนักงานคุมประพฤติได้จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสำนักงานคุมประพฤติช่วงวันหยุดยาว เพื่อให้คำแนะนำด้านกฎหมาย บริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว