‘ลำไย ไหทองคำ’ ศิลปินอีสานอินดี้ ที่มีเพลงฮิต ผู้สาวขาเลาะ, แค่คนคุย, เด๋อเดี่ยงด่าง, ใจสิเพ เข้าห้องอัดโพลาแบร์ สตูดิโอ เลียบด่วนรามอินทรา เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำเพลงใหม่ฟีเจอริงกับศิลปินเกาหลีใต้ เป็นเพลงป๊อปชวนแดนซ์ โดยเธอได้ใส่เสียงในพาร์ทของเธอซึ่งมีเนื้อร้องเป็นภาษาไทย ก่อนส่งไปให้ศิลปินฝั่งเกาหลีใต้ใส่เสียงร้องเป็นภาษาเกาหลี มี ‘ไวตามิน เอ’ ศิลปินที่ได้รับการขนานนามว่า ‘เจ้าพ่อขาแดนซ์ยุค 90’ ที่มีเพลงหลุดโลก เพลงเต้นเน้นการโยก โยก โยก โยกเข้าไปให้มันหลุดโลก เป็นเพลงคุ้นหูและเป็นภาพจำ รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์รับผิดชอบโปรเจกต์
‘ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์’ หรือ ‘ประจักษ์ชัย ไหทองคำ’ ผู้บริหารค่ายไหทองคำเรคคอร์ด เปิดเผยกับทีมข่าว ‘วอยซ์ออนไลน์’ ว่า การสร้างสรรค์งานโปรเจกต์นี้ ตนตั้งใจส่งศิลปินสาวตัวท็อปของค่าย ไปเจาะตลาดเพลงเกาหลีใต้ หรือตลาดเพลง K-pop โดยเฉพาะ แน่นอนอาจมีหลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ และถ้าหากจุดกระแสความนิยมติดขึ้นมา ผลตอบแทนที่จะได้รับกลับมานั้น เชื่อว่าคุ้มค่ากับการลงทุน
ผู้บริหารค่ายไหทองคำฯ บอกอีกว่า ที่ผ่านมามีศิลปินบ้านเราไปแจ้งเกิดในตลาดเพลง K-pop หลายคน แต่ส่วนใหญ่ทางเกาหลีใต้นำตัวไปสร้าง หรือกำหนดทิศทางการทำงาน แต่ตนอยากสร้างผลงานของศิลปินจากประเทศไทยไปเจาะตลาด ส่วนตัวมีความมั่นใจว่า ลำไยเป็นนักร้องที่มีความโดดเด่นทั้งเรื่องการร้อง และการเต้น มีรูปร่างดี สามารถเทิร์นโปร ก้าวสู่ตลาดเพลงต่างประเทศได้
ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลกคลี่คลาย ปลดล็อกเดินทางข้ามประเทศ ลำไย และทีมงานไหทองคำฯ จะบินไปถ่ายเอ็มวี ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ทันที
“ในภาวะโควิดส่งผลกระทบไปทั่ว การเปิดผับหรือคอนเสิร์ตที่จะต่อยอดให้มีมูลค่าเพิ่มคงต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีก 2-3 ปี มันเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว แต่หน้าที่ของคนทำเพลงมันจะหยุดไปทำไลน์อื่นไม่ได้ นักร้องก็มีอายุในการใช้งาน คนค้าขายก็ทำของเขาไป คนทำอาชีพเต้นกินรำกินก็ต้องเสี่ยงดวงโปรเจกต์นี้จะโดนไหมในระยะนี้ จะมีคนจ้างงานไหม มันก็ต้องทำใจ สิ่งที่ทำไปอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการกลับมา 100 เปอร์เซ็นต์ ได้แค่ 40-50 เปอร์เซ็นต์ก็ยังดีกว่าที่รอวันตาย
ถ้าจะไปคิดในช่วงที่พร้อมมันไม่พร้อมเร็วๆ นี้แน่ มันก็ต้องสู้ในวิกฤต สิ่งที่ไหทองคำฯ คิดวันนี้จะให้เขาเป็นคนกำหนดเมโลดีไม่มีกลิ่นของไทย เช่นไลน์พิณ ระนาด มันก็ไม่ใช่เราบุกตลาดเขา เผื่อผลงานไปโดนตลาดบนของเขา อาจมีค่ายเพลงแถวหน้าของเขาสนใจมาร่วมงานกับเรา ด้วยต้นทุนที่ลำไยมีอยู่ในยูทูบเกือบ 1,000 ล้านวิว อาจเป็นโปรไฟล์ที่ทำให้ค่ายเพลงบ้านเขาอาจจะเปิดใจรับ ทำงานที่ใหญ่ขึ้นในโอกาสต่อๆ ไป
อนาคตอาจจะมี T-K-pop ก็ได้ T คือไทย K คือ เกาหลี เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมเพลงสองประเทศ อย่างเพลงนี้ยังอยู่ในช่วงตั้งชื่อเพลง พาร์ตของลำไยก็ร้องเป็นภาษาไทย พาร์ตของศิลปินเกาหลีเขาก็ร้องเป็นภาษาของเขา ส่วนจะเป็นใครนั้นขอเปิดเผยในโอกาสต่อไป”
