เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่กระทรวงแรงงาน คณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำ ชุดที่ 22 (ไตรภาคี) ประชุมพิจารณาปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็นครั้งที่ 2 ของปีงบประมาณ 2567 และมีการปรับสูตรการพิจารณาใหม่ ที่อิงกับภาวะเงินเฟ้อ ประเภทการทำงาน ทักษะฝีมือแรงงาน ที่สำคัญคือไม่ได้ปรับทั้งประเทศ โดยมีนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมทั้งนี้ปรับสูตรการพิจารณาใหม่รอบนี้ มีเพียง 10 จังหวัดนำร่อง และปรับในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ประกอบด้วย กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ สงขลา พังงา ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี พัทยา และระยอง เป็นต้น ซึ่งเป็นมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง และจังหวัดอุตสาหกรรม และยังปรับแบบเจาะจงเฉพาะพื้นที่ หรือบางอำเภอของจังหวัดนั้นๆ ด้วย โดยที่ประชุมเริ่มพิจารณาตั้งแต่เวลา 13.30 น. และเสร็จการประชุมพร้อมมีมติก่อนแถลงผลการพิจารณาในเวลา 15.30 น. รวมมีการหารือ 2 ชั่วโมง
ไพโรจน์แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำใน 10 จังหวัดนำร่อง และขึ้นในบางพื้นที่นำร่อง กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก 4 ดาวขึ้นไป และมีลูกจ้าง 50 คนขึ้นไป ในอัตรา 400 บาทเท่ากัน มีผลตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.นี้ จากนี้จะนำเสนอ ครม.ในวันที่ 2 เม.ย. และจะรายงานให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ทราบต่อไป โดย 10 จังหวัดที่จะได้ขึ้นค่าจ้างรอบ 2 ดังนี้ กรุงเทพฯ ให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่ เขตปทุมวัน และเขตวัฒนา
ไพโรจน์กล่าวต่อว่า เชียงใหม่ให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่, ภูเก็ตให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำทั้งจังหวัด, กระบี่ให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง, สงขลาเฉพาะเทศบาลนครหาดใหญ่, สุราษฎร์ธานีให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่ อ.เกาะสมุย, พังงาให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่เทศบาลตำบลคึกคัก, ชลบุรีให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่เมืองพัทยา, ประจวบคีรีขันธ์ให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่เทศบาลหัวหิน และระยอง ให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่ ต.บ้านเพ
ไพโรจน์กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มธุรกิจต่อไปที่จะมีการพิจารณาขึ้นค่า จ้างขั้นต่ำ คือกลุ่มธุรกิจภาคการส่งออก โลจิสติกส์
ทั้งนี้ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่า หากคณะกรรมการค่าจ้างมีมติเห็นชอบอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใน 10 จังหวัดนำร่องแล้ว สำนักงานคณะกรรมการค่าจ้างจะจัดทำประกาศ เสนอไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 2 หรือ 9 เม.ย.นี้ เพื่อ รับทราบและประกาศลงในราชกิจจา นุเบกษา ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. 2567 ซึ่งเป็นของขวัญปีใหม่ไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์