ไม่พบผลการค้นหา
'สว.เลิศรัตน์' เผยวุฒิสภาจ่อตั้ง กมธ.งบฯ 67 พรุ่งนี้ ทำงานคู่ขนานกับฝั่ง สส.เหตุงบผ่านล่าช้า มองอภิปรายทั่วไปรัฐบาลตอนนี้ยังเร็วไป ชี้รัฐบาลก่อนอยู่มา 4 ปี ยังไม่เห็น สว.อภิปราย

วันที่ 8 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สว. เผยว่า เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2567 กระบวนการถือว่าช้ามาก ทำให้มีเวลาทำงานน้อย ตามกำหนดการต้น เม.ย. จะต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎรในช่วงต้นสัปดาห์ และต้องส่งให้ สว. พิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 9-10 เม.ย. เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประมาณวันที่ 17 เม.ย. กรอบเวลาของ สว. ในการพิจารณามีน้อยมาก แค่ 6-7 วัน 

ด้วยเหตุนี้ ประธานวุฒิสภาจึงมีดำริให้ตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 ในส่วนของวุฒิสภา ในวันพรุ่งนี้เช้า (9 ม.ค.) จำนวน 41 คน มีทั้งจากคณะกรรมาธิการฯ จากวิป และมีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก 5 คน และจะเริ่มประชุมตั้งแต่วันจันทร์หน้า (15 ม.ค.) คู่ขนานไปกับคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจะช่วยให้ส่วนราชการด้วยได้มาชี้แจงคู่ขนานกันไปอย่างสะดวก

พล.อ.เลิศรัตน์ คาดว่า ประมาณวันที่ 20 มี.ค. กรรมาธิการฯ ของ สว. ก็จะจบการพิจารณา พร้อมกับคณะกรรมาธิการฯ ของสภาฯ จากนั้นจึงเข้าสู่การแปรญัตติ และนำเข้าสู่วุฒิสภาเพื่อเปิดอภิปรายงบประมาณในวันที่ 9 เม.ย. ต่อไป เพื่อให้ข้อเท็จจริงและรู้รายละเอียดเพียงพอ ซึ่งตอนนี้ทยอยแจกเอกสารรายละเอียดไปแล้ว เพื่อให้สมาชิกทยอยมารับ

สำหรับภาพรวมของงบประมาณ ปี 2567 พล.อ.เลิศรัตน์ มองว่า แม้จะมีข้อจำกัดมาก แต่รัฐบาลก็ดันวงเงินไปได้ถึง 3.48 ล้านล้าน ประเด็นแรกมองว่างบลงทุนเพียง 20% อาจไม่มากพอที่จะผลักดันประเทศให้พ้นจากปัญหา รวมถึงการดัน GDP ให้ถึง 5% ตามที่รัฐบาลมุ่งหวัง ด้วยงบที่จัดสรรมาอาจยังน้อยไป

รวมถึงเข็มมุ่งในทางนโยบายของรัฐบาลก็ยังไม่สะท้อนออกมาในงบประมาณเท่าที่ควร ส่วนใหญ่งบทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 9% จากปีที่ผ่านมา จึงเป็นการกระจายออกไปทั่ว ดังนั้นการผลักดันนโยบายต่างๆ เช่นโครงการดิจิตอลวอลเล็ต ก็ต้องไปหวังพึ่งกลไกภายนอก เช่น พ.ร.บ.เงินกู้ จึงได้แต่หวังว่างบประมาณปี 2568 ที่จะออกมาไม่นานนี้ จะมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น

ส่วนแนวโน้มของดิจิทัลวอลเล็ต ก็คงต้องรอวันพรุ่งนี้ที่รัฐบาลจะออกมาชี้แจงว่า คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นอย่างไร แต่ก็ยังมีหลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ตอนที่รัฐบาลคิดนโยบายนี้อาจจะยังอยู่ในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ จึงกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินให้ประชาชนไปใช้สอย ซึ่งหลายประเทศในโลกก็ทำ 

"แต่ถึงวันนี้วิกฤตของเศรษฐกิจก็ยังไม่เลวร้ายนัก เงินเฟ้อต่างๆก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่นักเศรษฐศาสตร์โลกประมาณการไว้ ดังนั้นการจะเอาเงิน 500,000 ล้านบาทไปแจกประชาชน หากปีหน้าหรือปีถัดไปเกิดขึ้นมาก็จะเป็นปัญหา จึงอยากให้รัฐบาลคิดอีกครั้งว่าจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปหรือไม่"

ขณะที่กรณีวุฒิสภาเตรียมรวมรายชื่อขอเปิดการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 153 ของรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง และยังไม่เห็นรายละเอียดว่า สว. ส่วนใหญ่ติดใจเรื่องอะไร จึงต้องขอความชัดเจนก่อน เพราะต้องใช้รายชื่อ สว. 84 คนลงนามเพื่อเปิดอภิปราย ซึ่งไม่ใช่น้อย

"ก่อนหน้านี้ก็ได้พูดคุยกับเพื่อน สว. บางคน บอกว่า รัฐบาลชุดที่แล้วทำงานมา 4 ปีทำไม สว. ไม่เปิดอภิปรายเลย รัฐบาลชุดนี้ทำงานมา 3 เดือนกว่า กลับเปิดอภิปรายแล้วก็ต้องดูประเด็น ว่าจะใช้มาตรานี้หรือไม่" พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว

เมื่อถามว่าจะให้เวลารัฐบาลทำงานนานแค่ไหน พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า ขอให้สิ้นปีงบประมาณนี้ไปก่อน แต่พวกตนก็คงไปก่อนเหมือนกัน ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าการเปิดอภิปรายตอนนี้ยังเร็วไป และเมื่อถามย้ำว่าจะเป็นการทิ้งทวนของ สว. หรือไม่ พล.อ.เลิศรัตน์ ตอบติดตลกว่า "ผมไม่มีทวนที่จะทิ้ง"