ทั้งนี้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ออกมาประณามเผด็จการเมียนมา เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (20 ก.ย.) หลังจากรายงานการโจมตีด้วยเฮลิคอปเตอร์ของเผด็จการเมียนมา ต่อโรงเรียนในหมู่บ้านเลทเยทโกน เมืองสะกาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย โดย 11 รายในนั้นเป็นเด็กนักเรียน
กองทัพเผด็จการเมียนมาเข้าทำรัฐประหารยึดอำนาจตั้งแต่ ก.พ. 2564 โดยกองทัพเมียนมาได้สังหารประชาชนไปแล้วอย่างน้อยกว่า 2,300 ราย โดยเหตุการณ์โจมตีโรงเรียนในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ก.ย.) ในขณะที่กองทัพเมียนมาอ้างว่า เหตุดังกล่าวเป็นการโจมตีของกลุ่มกบฏ
พื้นที่เมืองสะกาย เป็นพื้นที่ที่เกิดการรบพุ่งและการโจมตีระหว่างกองกองทัพเมียนมา กับกองกำลังต่อต้านการทำรัฐประหารอย่างรุนแรง นับตั้งแต่การทำรัฐประหารเกิดขึ้น หลายหมู่บ้านของเมืองสะกายมักถูกกองทัพเมียนมาเผาอยู่บ่อยครั้ง
ทั้งนี้ UNICEF ได้ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า “ในวันที่ 16 ก.ย. มีเด็กอย่างน้อย 11 รายเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศ และการกราดยิงโดยไม่เลือกหน้าในพื้นที่พลเรือน” แถลงการณ์ของ UNICEF ย้ำว่า โรงเรียนจะต้องไม่ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีใดๆ “มีเด็กอย่างน้อยอีก 15 ราย ที่ยังหายตัวไปอยู่ในตอนนี้” ทั้งนี้ UNICEF เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัวเด็กด้วยความปลอดภัย
กูเตอร์เรสซึ่งจะเป็นประธานในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในวันพฤหสับดีนี้ (22 ก.ย.) ออกมาระบุผ่านโฆษกว่า UN ขอ “ประณามอย่างรุนแรงจากการโจมตีโดยกองทัพเมียนมาต่อโรงเรียนในเลทเยทโกน” และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของเหยื่อ พร้อมชี้ว่าการโจมตีเป็น “การละเมิดอย่างร้ายแรงต่อเด็ก ในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งทางอาวุธ ซึ่งได้รับประณามอย่างรุนแรงจากคณะมนตรีความมั่นคง” อีกทั้งเรียกร้องให้ผู้ลงมือต้องถูกนำมาลงโทษ
ภาพวิดีโอที่ถูกส่งต่อภายหลังเหตุการณ์โจมตีโรงเรียนในครั้งนี้ เปิดเผยให้เห็นถึงคราบเลือดบนพื้นห้องเรียน อาคารที่ได้รับความเสียหาย และผู้ปกครองที่กำลังร้องไห้พร้อมกอดศพของลูกตนเองไปด้วย ทั้งนี้ กองทัพเมียนมาส่งเฮลิคอปเตอร์ของตนเองเข้าไปยังพื้นที่หมู่บ้าน หลังจากที่กองกำลังอิสรภาพคะฉิ่น (KIA) เคลื่อนอาวุธของตนเองเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว โดยกองทัพเมียนมากล่าวหาว่า KIA ใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์ และอ้างว่าตนสามารถยึดระเบิดจากพื้นที่หมู่บ้านมาได้
“สมาชิกหน่วยรักษาความปลอดภัยได้ให้การรักษาพยาบาลที่จำเป็น และเตรียมส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง” กองทัพเมียนมาอ้างในแถลงการณ์ของตน โดย ซอ มิน ตุน โฆษกคณะรัฐประหารเมียนมาออกมาระบุเมื่อวันอังคาร กล่าวหา KIA ว่าได้พาชาวบ้านไปที่วัด ก่อนก่อเหตุยิงทหารจากที่นั่น อย่างไรก็ดี ชาวบ้านในพื้นที่ระบุกับ AFP ว่าข้ออ้างของกองทัพเมียนมาไม่ตรงกันกับความเป็นจริง นอกจากนี้ พวกตนยังพบเห็นทหารเมียนมาลักพาศพบางส่วน พร้อมกับกุมตัวเด็กและครูออกไปจากโรงเรียน
ฮัสซัน นูร์ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียของ Save the Children กล่าวว่า โรงเรียนควรถูกจำกัดออกจากความรุนแรงเอาไว้ระหว่างที่เกิดความขัดแย้ง “ต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกกี่ครั้ง ก่อนที่จะมีการดำเนินการใดๆ” นูร์กล่าว พร้อมเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ดำเนินการต่อเรื่องดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ASEAN มีความพยายามทางการทูตที่ไร้ผลมาจนถึงตอนนี้ เพื่อแก้ไขวิกฤตในเมียนมา ผ่านการหารือกันระหว่างผู้นำขององค์การที่พบปะกันที่พนมเปญในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
ที่มา: