ไม่พบผลการค้นหา
ฝ่ายค้าน ลั่นหากรัฐบาลไม่ตอบรายละเอียดการใช้เงินกู้ให้ชัดเจน ไม่ให้ตั้ง กมธ. และชี้แจงต่อสภาทุกเดือน จะไม่ยกมือผ่าน พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ขู่อาจต้องยื่นศาล รธน. ตีความ

นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน), นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รองประธานวิปฝ่ายค้าน และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงผลการประชุมวิปฝ่ายค้าน

นายสุทิน กล่าวว่า รูปแบบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ และ พ.ร.ก.การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จะเป็นการอภิปรายทีละฉบับ และหากมีความจำเป็นต้องเชื่อมโยงถึงฉบับอื่นก็สามารถทำได้ โดยจะไม่มีการประท้วง ฝ่ายค้านจะแบ่งสัดส่วนเวลาตามจำนวน ส.ส. ของพรรค และให้ทุกพรรคได้อภิปราย ตั้งแต่วันที่ 27-31 พ.ค. 2563 เริ่มจากเพื่อไทย 35 คน พรรคก้าวไกล 15 คน และพรรคร่วม รวมแล้ว 65 คน 

นายพิจารณ์ กล่าวถึงสัดส่วนของการอภิปรายว่าว่า 3 วันแรกจะเป็นการอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และวันที่ 4 จะเป็นการพิจารณา พ.ร.ก. ให้ ธปท. ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Softloan) 5 แสนล้านบาท และวันที่ 5 จะพิจารณา พ.ร.ก.อุ้มตราสารหนี้ 400,000 ล้านบาท และพิจารณา พ.ร.ก. การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่อโดยจะแยกลงมติทีละฉบับ

เสนอตั้ง กมธ.ตรวจสอบการใช้เงินกู้

นายสุทิน กล่าวอีกว่า จากการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนทั้งหมด เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ผ่านไปเลยคงไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ทางฝ่ายค้านจะเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการใช้เงินกู้จำนวนนี้ และหากรัฐบาลรับปากว่าจะรายงานการใช้เงินกู้จำนวนนี้ต่อสภาฯ เดือนละครั้ง ฝ่ายค้านอาจจะให้ผ่าน แต่จะไม่ให้ผ่านแบบไม่มีเงื่อนไข

ทั้งนี้ ข้อกังวลก็คือยังไม่มีรายละเอียดการใช้เงินที่ชัดเจน รัฐบาลต้องตอบคำถามและให้สัญญาต่อสภาฯ ให้ได้ แม้จะยังไม่จบในรูปเล่มของ พ.ร.ก. ดังนั้นหากรัฐบาลยังไม่ให้รายละเอียดฝ่ายค้านก็จนใจที่จะให้ผ่าน และหากในที่ประชุมรัฐบาลยังตอบรายละเอียดการใช้งบประมาณนี้ไม่ชัดหรือไม่ยอมตอบ ฝ่ายค้านก็อาจต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ส่วนปัญหาที่มี ส.ส. บางคนไม่ได้อภิปรายทั้งที่เตรียมตัวมาแล้ว นายสุทิน กล่าวว่า ครั้งนี้ก็จะไม่มีปัญหาเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะเอาบทเรียนจากครั้งก่อนมาใช้ และปัญหาเดิมก็จะไม่เกิดขึ้นอีก

ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า การประชุมครั้งนี้มีข้อจำกัดเรื่องเคอร์ฟิวจึงจะปิดการประชุม 20.00 น. ของทุกวัน และเปิดประชุม 09.30 น. โดยมีฝ่ายค้านและรัฐบาลเข้าร่วมองค์ประชุมด้วยกัน แม้ว่าจะมีการพิจารณาและอภิปราย พ.ร.ก. ทีละฉบับ แต่คณะรัฐมนตรีที่นำเสนอสามารถชี้แจงเหตุผลของ พ.ร.ก.พร้อมกันได้

ขณะที่ นายพิจารณ์ เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาดังกล่าว แต่เกรงว่าปัญหาจะอยู่ที่เปิดประชุมไม่ได้ตามเวลาที่กำหนดคือ 09.30 น. และทำให้ปัญหาของการจัดการเวลาผิดพลาด ฝ่ายค้านจะมาให้ครบทุกคน แต่ต้องจับตาดูฝ่ายรัฐบาลด้วย และถ้าเริ่มประชุมช้าก็ต้องเลิกประชุมช้าไปด้วยเพื่อให้มีเวลาอภิปราย 10 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน

รบ.พร้อมชี้แจง 'สนธิรัตน์' เชื่อผ่านฉลุย

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการพูดคุยเรื่องของพ.ร.ก.เงินกู้ ที่เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะพิจารณาในสัปดาห์นี้ ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีความเห็นห่วงเรื่องของการโหวต ว่าจะเรียงรายฉบับ หรือ จะเป็นการโหวตหลังอภิปรายจนครบถ้วนทุกฉบับ

ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับทราบและเห็นว่ารูปแบบของการโหวตนั้น ได้ให้สิทธิ์วิปทุกฝ่ายเป็นผู้ไปหารือและตกลงร่วมกัน เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ขัดข้องในเรื่องนี้ แต่เป็นห่วงเรื่องกรอบเวลาที่จะอภิปราย เนื่องจากมีข้อจำกัดในหลายเรื่อง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี จะเข้าไปร่วมฟังการอภิปรายในทุกฉบับ

ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถชี้แจงรายละเอียดและความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ เพื่อให้เกิดการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างรอบด้าน และจะสร้างสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชนได้อย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม