จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษในวันนี้ (16 ต.ค.) ว่า พิจารณาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีเพียงวาระเดียวตามที่ประกาศจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีภายใน 3 วัน
ส่วนข้อเรียกร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านมายังพรรคประชาธิปัตย์เพื่อขอเสียงสนับสนุนในการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญหารือทางออกการชุมนุม ว่า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคจะต้องไปดูจะอาศัยพรรคใดพรรคหนึ่งเสียงไม่เพียงพอ แต่ข้อเท็จจริงสภาก็จะเปิดสมัยประชุมสามัญในอีก 2 สัปดาห์อยู่แล้ว
ส่วนจุดยืนของประชาธิปัตย์ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องเปิดวิสามัญ แต่เรื่องแก้ธรรมนูญเป็นประเด็นหนึ่งที่จะได้มีการพิจารณาเมื่อเปิดประชุมสมัยประชุมสามัญในเดือน พ.ย.อยู่แล้ว ซึ่งจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนว่าเราสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ส่วนความเห็นที่จะต้องไปทำประชามติก่อนหรือไม่นั้น ชัดเจนตามรัฐธรรมนูญว่าหากต้องแก้มาตรา 256 ไม่ได้บังคับว่าจะต้องไปทำประชามติ แต่บังคับว่าหลังผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาแล้วจะต้องทำประชามติ จึงเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำประชามติก่อน
เรื่องเร่งด่วนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเรียกร้องให้เปิดประชุมวิสามัญเนื่องจากการชุมนุม จุรินทร์ ย้ำว่า เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ดำเนินการ มีกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่ากลไกสภาไม่สามารถทำได้หรือ จุรินทร์ ระบุว่า กลไกสภาก็เป็นทางออกหนึ่ง รัฐสภาควรเป็นเวทีหาทางออกให้กับประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่สำคัญ อย่างน้อย 3 ฝ่ายที่ควรจะมีความเห็นร่วมกันทั้ง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้านและวุฒิสมาชิก
จุรินทร์ ยังเผยว่า ไม่เคยได้ยินกระแสการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติในขณะนี้ พร้อมระบุเท่าที่เคยมีมาในโลก รัฐบาลแห่งชาติจะมีในสถานการณ์สงคราม ในสภาวะไม่ปกติ หรือในสภาวะปกติที่บ้านเมืองไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่ปัจจุบันไทยปกครองด้วยระบบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซึ่งขณะนี้ระบบรัฐสภายังสามารถเดินหน้าไปได้ ยังไม่ได้ถึงทางตันหรือไม่มีทางไปแต่อย่างใด
เมื่อถามย้ำว่าสถารชนการณ์ยังไม่สุกงอมใช่หรือไม่ จุรินทร์ ระบุ ณ เวลานี้ยังไม่เห็นว่าไปเข้าเงื่อนไขที่โลกเคยทำมา เพราะระบบยังเดินไปได้ เมื่อย้ำว่าส่วนตัวเชื่อว่าระบบยังเดินไปได้หรือ นายจุรินทร์ กล่าวว่าขณะนี้ยังเดินไปได้ สภาก็จะเปิดได้ในเดือนหน้า กลไกยังเดินไปได้ เรายังมีรัฐบาล ยังมีฝ่ายค้านยังมีวุฒิสมาชิก
ส่วนลักษณะการชุมนุมมีความคล้ายฮ่องกงโมเดล จุรินทร์ ขอให้ไปใช้โควิดโมเดล เชื่อว่าทุกฝ่ายร่วมมือกันใช้เป็นแนวทางคลี่คลายสถาณการณ์และปัญหาของประเทศทุกอย่างจะเดินไปได้ เพราะนอกจากเราประสบปัญหาเศรษฐกิจแลัวยังมีปัญหาการเมืองซ้ำขึ้นไปอีก ซึ่งเราประสบความสำเร็จในการแก้ไขโควิด นอกจากมาตราการที่ถูกต้องของรัฐบาลแล้วความร่วมมือของทุกฝ่ายก็มีส่วนสำคัญ ดังนั้นในสถานการณ์การเมืองหากเราใช้โควิดโมเดลร่วมกันทุกฝ่าย เชื่อว่าจะผ่านสถารการณ์ที่ทุกคนไม่อยากเห็น เมื่อย้ำว่าโควิดโมเดลจะสู้ฮ่องกงโมเดลได้หรือไม่
จุรินทร์ ย้ำว่าโควิดโมเดลได้พิสูจน์แล้วว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก