หลังจากการประกาศซ้อมรับของจีนรอบเกาะไต้หวัน ทางการญี่ปุ่นได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลถึงการซ้อมรบดังกล่าวของจีน ซึ่งจะมีการใช้กระสุนยิงพิสัยไกลเพื่อฝึกซ้อมรบบริเวณช่องแคบไต้หวัน อันเป็นการตอบโต้การเดินทางเยือนไต้หวันของเพโลซี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ คนแรกในรอบ 25 ปีที่เหยียบเท้าลงบนเกาะแห่งนี้
“พื้นที่ทางทะเลที่ฝ่ายจีนประกาศให้ใช้สำหรับการซ้อมรบ… ทับซ้อนกับเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น” ฮิโรคาซุ มัตสึโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นกล่าวกับผู้สื่อข่าว “เมื่อพิจารณาถึงลักษณะการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของกิจกรรมทางทหารนี้ ญี่ปุ่นขอแสดงความกังวลต่อทางฝ่ายจีน” ทั้งนี้ การซ้อมรับของจีนรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งทับซ้อนกับเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น จะเริ่มขึ้นในช่วงวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.)
ส่วนหนึ่งของเกาะทางตอนใต้สุดในโอกินาวาของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใกล้กันกับพื้นที่ของเกาะไต้หวัน เช่นเดียวกันกับหมู่เกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณศุูนย์กลางของพื้นที่พิพาทมาอย่างยาวนานระหว่างญี่ปุ่นเองกับจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งนี้ จีนเองอ้างว่าไต้หวันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของจีน และในวันใดวันหนึ่ง จีนจะยึดไต้หวันคืนมาเป็นของตน แม้ว่าจะต้องใช้กำลังหากมีความจำเป็น
“สันติภาพและความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน มีความสำคัญไม่เพียงต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมั่นคงของประชาคมระหว่างประเทศด้วย” มัตสึโนะกล่าวเสริม หลังจากการเยือนไต้หวันของเพโลซี กระตุ้นเร้าให้การเมืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกร้อนระอุขึ้น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเรียกร้องให้ปัญหารอบๆ วิกฤตไต้หวันต้อง “ได้รับการแก้ไขผ่านบทสนทนาอย่างสันติภาพ”
อย่างไรก็ดี มัตสึโนะกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่น “ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแห่งที่ที่จะออกมาให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการเดินทางเยือนต่างประเทศของประธานรัฐสภาเพโลซี” อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นกำลัง “เตรียมความพร้อม” เพื่อต้อนรับเพโลซี ซึ่งกำลังจะเดินทางต่อจากไต้หวัน และเกาหลีใต้มายังประเทศของตนในช่วงสัปดาห์นี้ โดยทางการญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติมในการเดินทางของเพโลซีมายังประเทศตน ทั้งนี้ การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของเพโลซี จะเป็นการเดินทางเยือนประเทศแห่งนี้ของประธานรัฐสภาสหรัฐฯ ในครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2558
ในทางตรงกันข้าม กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์ว่า ตนจะ “ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่” ต่อจุดยืนของจีน ในประเด็นการเดินทางเยือนไต้หวันของเพโลซี ก่อนกล่าวหาว่าสหรัฐฯ กำลังสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคของตนให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น
“การแทรกแซงอย่างโอ้อวดของสหรัฐฯ ในกิจการภายในของประเทศอื่นๆ และการยั่วยุทางการเมืองและการทหารโดยเจตนา แท้จริงแล้วเป็นสาเหตุของการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือแถลง “ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่แบ่งแยกมิได้ และประเด็นไต้หวันเป็นเรื่องของกิจการภายในจีน”
“เราขอประณามอย่างรุนแรงจากการแทรกแซง ของกองกำลังภายนอกในประเด็นไต้หวัน และสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อจุดยืนของรัฐบาลจีน ที่จะปกป้องอธิปไตยของประเทศและบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างเด็ดเดี่ยว” แถลงการณ์ของเกาหลีเหนือในการสนับสนุนจีน พร้อมชี้ว่า จีนในฐานะผู้มีอธิปไตยเหนือไต้หวันมีสิทธิเต็มที่ในการออกมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ
ในทางตรงกันข้ามกับเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหาทางออกผ่านการสร้างบทสทนา ที่จะคงสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค หลังจากการเดินทางเยือนไต้หวันของเพโลซี ซึ่งมีกำหนดการต่อไปในการเยือนเกาหลีใต้ จากเที่ยวการเดินทางเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการด้วยเช่นกัน
“จุดยืนของรัฐบาลของเรา คือการคงรักษาการสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง… บนพื้นฐานที่ว่าสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคผ่านการเจรจาและความร่วมมือนั้นมีความสำคัญ” เจ้าหน้าที่จากสำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงต่อผู้สื่อข่าว
ที่มา: