เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 20 พ.ค. 2565 ที่สยามสแควร์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 8 ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ดาวกระจายเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ในการหาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. 2565 ว่า ตนอยากจะไปเข้าหาประชาชนมากกว่าที่เลือกใช้วิธีดาวกระจาย เป็นวิธีสนุก ยืนยัน 2ปีครึ่ง ตนมั่นใจและเชื่อว่ามาถูกทางในการผู้ว่าฯ อิสระ เสียงตอบรับประชาชนและนโยบายจะทำให้กรุงเทพฯ ดีขึ้นได้ ตนเน้นหาเสียงด้วยวิธีการใช้ขนส่งสาธารณะ คือ รถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยเริ่มสยามสแควร์ที่เป็นวัยรุ่นที่จะเป็นคนมาดูแลเมืองต่อไป พื้นที่สยามฯ กทม.ต้องเตรียมพื้นที่คนรุ่นใหม่ จากนั้นตนจะไปพื้นที่คนทำงาน ที่คนต้องการความโปร่งใสมีประสิทธิภาพของเมือง มีพื้นที่สีเขียว มีลานกีฬาใกล้บ้าน ต่อไปจะไปเยาวราช พื้นที่วัฒนธรรม ผู้สูงวัยเป็นเหมือนคลังความคิด ประสบการณ์คนกรุงเทพฯ ที่ผ่านมาผู้สูงอายุจำนวนมากว้าเหว่ ดังนั้น กทม.ต้องให้ผู้สูงอายุมีค่าต่อสังคม และถนนข้าวสารจะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ กทม.ต้องอยู่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตนอยากทำกรุงเทพฯให้เป็นเมืองน่าอยู่ของทุกคน
ถามว่า ทำไมถึงยังเชื่อว่าไม่ได้นอนมา ชัชชาติ กล่าวว่า โพลบางคนก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แม้โพลจะนำแต่หลายท่านก็ตีตื้นขึ้นมา หวังว่าผู้ชนะจะได้ฉันทามติเปลี่ยนกรุงเทพฯได้ แม้ที่ผ่านมาเลือกตั้งจะมี ส.ว.มาช่วยเหลือให้เรา แต่ครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ขอให้เลือกใครไม่เป็นไร แต่ขอให้เลือกเยอะๆ
ชัชชาติ กล่าวว่า ขอให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันเยอะๆ ออกไป 95% หากฝนไม่ตกลงก็ให้ไปลงคะแนนได้ ตนมั่นใจ 100% มาาถูกทางในการลงผู้ว่าฯ ในนามอิสระหาแนวร่วม เรื่องแพ้หรือชนะแล้วแต่ประชาชนจะตัดสินใจ ส่วนตัวมั่นใจมาถูกทางแล้ว ตนเองพร้อมทุกอย่าง ตนพร้อมทำงานกับ ส.ก.ทุกท่าน เพราะให้เกียรติ ส.ก.ที่ประชาชนเลือกมา สิ่งแรกที่ได้เป็นผู้ว่าฯ จะโทรแสดงความยินดีกับทุกท่านพร้อมขอให้มาทำงานร่วมกัน และนำนโยบายของตนส่งให้ดูพร้อมกับดูนโยบายรายเขต ตนไม่มีพรรค มีแต่ ส.ก.ที่ประชาชนเลือกมา เชื่อว่าจะเป็นผู้นำแห่งความหวังและความสามัคคีแห่งการช่วยร่วมกันทำงานกรุงเทพฯให้ดีขึ้นได้
ชัชชาติ กล่าวว่า ถ้าชนะเลือกตั้งขึ้นมา ตนพร้อมเปิดตัวทำงาน เพราะบางคนอาจเป็นข้าราชการ ซึ่งมีกฎหมายเกี่ยวข้องอยู่นิดหน่อย โดยตนได้วางทีมงานแล้ว 90% ทั้งนี้ ตนไม่กังวลแล้ว แต่ดีเบต ตนไม่ค่อยเก่ง ทำให้มีความไม่สบาย การเลือกตั้งครั้งนี้คนตื่นตัวมาก เพราะไม่ได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มา 9 ปี และเลือกตั้งล่าสุดก็มี ส.ว.มาแบ่งอำนาจเรา ตนเชื่อว่าจะมาใช้สิทธิเลือกตั้งเยอะ ส่วนคนมาสนับสนุนตนนั้นก็มาตามธรรมชาติ อย่าประมาท ถ้าคนมาใช้สิทธิน้อย คนที่มีฐานเสียงเหนียวแน่นอาจไปได้เยอะกว่าเรา
"ถ้ารักทีมเราชอบทีมเราก็ไปเลือกเยอะๆ ตนคาดหวังทุกโหวตเตอร์ ทุกคนมีความหมายเท่าเทียมกันจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า ทุกคนมีคุณค่าเหมือนกันหมด" ชัชชาติ กล่าว
ถามถึงกรณีมีผู้สมัครบางคนได้ประกาศสโลแกนว่า "ไม่เลือกเราชัชชาติมาแน่"น่ากลัวหรือไม่ ชัชชาติ กล่าวว่า "อันนี้ ผมคิดว่าน่าจะเชียร์ผมนะ ผมฟังแล้วแสดงว่าผมคะแนนนำเหรอ เป็นสิทธิแต่ละท่าน เราเคารพท่าน เพราะสุดท้ายขึ้นอยู่กับประชาชน"
ถามถึงกรณีหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.จะต้องประสานกับรัฐบาลอย่างไร ชัชชาติ กล่าวว่า ตนคิดว่าดี เพราะความเป็นอิสระ ไม่มีฝ่ายค้าน รัฐบาล เพราะเอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้งออก ต้องถอดหมวกนักการเมืองออก ถ้ารัฐบาลทำไม่สอดคล้องกับคนกรุงเทพฯ อย่างเช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปีที่ผ่านมางบฯหายไปหมื่นล้านบาท ก็ต้องทวงกลับมา หรือเบี้ยคนชราน้อยไป รัฐบาลกลางจ่าย โดย กทม.สามารถออกระเบียบได้ ก็ต้องบอกให้รัฐบาลช่วยเพิ่มเบี้ยสูงอายุให้คนทั้งประเทศด้วยไม่ใช่ให้เฉพาะคนกรุงเทพฯ ยืนยันประสานงานได้ เอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง