พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดแรกอย่างเป็นทางการ หลังแถลงนโยบายต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ตอบว่าวันนี้ที่เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก จะมีการแบ่งงานกับคณะทำงานอย่างไรหรือไม่ ก่อนที่จะเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 ทันที
สำหรับ วาระการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นการแจ้งแนวปฏิบัติ ข้อกำหนด หลักเกณฑ์ ระเบียบขั้นตอนการดำเนินงาน และชี้แจงประเด็นข้อสงสัย กับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ชี้แจงการกำหนดหลักการในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี ข้อพึงปฏิบัติและข้อควรระวังของคณะรัฐมนตรี แนวทางการเสนอร่างกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเสนอแนะขององค์กรอิสระ แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับญัตติรายงาน รวมถึงข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา แนวทางในการดำเนินคดีของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคราชการส่วนท้องถิ่นรัฐวิสาหกิจองค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ และ แนวทางในการดำเนินคดีในศาลปกครองกรณีคณรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีถูกฟ้องคดีในศาลปกครอง
ด้านผู้แทน ป.ป.ช. เตรียมชี้แจงเรื่องการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี และ การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี
สำหรับ ผู้แทน สศช. ชี้แจงเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ พร้อมรับทราบความก้าวหน้าของเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
ด้านผู้แทนกระทรวงการคลัง ชี้แจงแนวทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ผู้แทนสำนักงบประมาณ แจ้งแนวทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2560 และ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ. 2559
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะรับทราบกำหนดวันและเวลาประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 1 และสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 พร้อมพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือ ปสส. และ คณะกรรมการต่างๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี รวมทั้ง อาจพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งข้าราชการการเมืองสำคัญด้วย อาทิ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โฆษกและรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยและเลขานุการรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะนั่งคุมงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเอง