กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS) ระบุว่า ทางกลุ่มรู้สึกตกใจเมื่อทราบว่าเผด็จการทหารไนเจอร์ต้องการจะดำเนินคดีต่อบาซูม ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไนเจอร์ถูกควบคุมตัวไว้ในห้องใต้ดินของทำเนียบประธานาธิบดี นับตั้งแต่กองทัพไนเจอร์ทำรัฐประหารเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ก่อน
แพทย์ประจำตัวของบาซูมกล่าว หลังจากเข้าเยี่ยมประธานาธิบดีไนเจอร์ว่า เขามี "กำลังใจที่ดี" แม้ว่าจะถูกควบคุมตัวในสภาวะที่ "ยากลำบาก" ทั้งนี้ การเข้าเยี่ยมบาซูมเมื่อวันเสาร์ (12 ส.ค.) ได้รับการอนุมัติท่ามกลางข้อเรียกร้องของประชาคมระหว่างประเทศ ในการปล่อยตัวบาซูมที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
หลังจากการตั้งข้อหากบฏต่อบาซูมโดยเผด็จการทหารไนเจอร์ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความผิดหวังที่ผู้นำไนเจอร์ถูกตั้งข้อหาดังกล่าว โดย เวแดนท์ พาเทล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าว "ไม่มีเหตุผลและไม่ยุติธรรมโดยสิ้นเชิง" และเผด็จการไนเจอร์จะไม่ "มีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤตนี้อย่างสันติ" และพวกเขา "ดูหมิ่นประชาธิปไตย และความยุติธรรม และการเคารพหลักนิติธรรมตามความเห็นของเรา"
อย่างไรก็ดี ด้วยสัญญาณความแข็งกร้าวของเผด็จการทหารไนเจอร์ พวกเขากล่าวในแถลงการณ์ที่ออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า พวกเขาได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับ "ประธานาธิบดีที่ถูกปลด และผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งในและต่างประเทศในข้อหากบฏต่อประเทศชาติ และการบ่อนทำลายความมั่นคงทั้งภายในและภายนอกของไนเจอร์" ทั้งนี้ แถลงการณ์ไม่ได้ระบุรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
บาซูมในวัย 63 ปี ถูกควบคุมตัวพร้อมกับภรรยาและลูกชาย และมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพของพวกเขา ทั้งนี้ นายพล อับดูราห์มาเน ชีอานี หัวหน้าหน่วยอารักขาประธานาธิบดีไนเจอร์ ประกาศตัวเป็นผู้ปกครองคนใหม่ของประเทศเมื่อวันที่ 26 ก.ค. หลังจากเขานำกองกำลังของตัวเองเข้าโค่นล้มอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของบาซูม
ก่อนหน้านี้ ECOWAS ได้ขู่ว่าทางกลุ่มจะดำเนินการทางทหารเพื่อต่อต้านการรัฐประหารไนเจอร์ แต่จนถึงขณะนี้ พวกเขายังไม่ปฏิบัติตามคำขู่ดังกล่าว อย่างไรก็ดี ผู้นำคณะรัฐประหารไนเจอร์ได้เตือนว่าพวกเขาจะปกป้องตัวเองจากการแทรกแซงใดๆ
นอกจากนี้ ECOWAS ยังกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อเผด็จการทหารไนเจอร์ ซึ่งรวมถึงการตัดกระแสไฟฟ้าไปยังไนเจอร์ด้วย ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวส่งผลให้เกิดไฟดับในกรุงนีอาเม และเมืองใหญ่อื่นๆ ของไนเจอร์ ECOWAS ยังระบุอีกว่า การดำเนินการเพื่อดำเนินคดีกับบาซูม นับเป็นการยั่วยุในรูปแบบใหม่ ซึ่งขัดแย้งกับรายงานของกองทัพไนเจอร์ ที่ระบุว่าพวกเขาเต็มใจที่จะหาทางออกอย่างสันติต่อวิกฤต
การรัฐประหารในไนเจอร์สะท้อนให้เห็นถึงภาพการยึดอำนาจ ที่มีลักษณะคล้ายกันในบูร์กินาฟาโซและมาลีประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันกับไนเจอร์ ท่ามกลางการก่อความไม่สงบของกลุ่มอิสลามติดอาวุธ และอิทธิพลของรัสเซียที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคซาเฮล ผ่านกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ของรัสเซีย
แม้จะถูกจองจำแต่บาซูมได้ตีพิมพ์บทความในหนังสือพิมพ์ The Washington Post โดยบาซูมระบุว่าเขาถูกจับเป็นตัวประกัน และการรัฐประหารจะ "ส่งผลร้ายแรงต่อประเทศของเรา ภูมิภาคของเรา และทั้งโลก" ยังมีรายงานอีกว่า บาซูมมีน้ำหนักลดลงอย่าง "น่ากังวล" ในขณะที่ลูกชายวัย 20 ปีของเขาซึ่งมีอาการป่วยเรื้อรังถูกปฏิเสธการดูแลเช่นกัน
ที่มา: