ไม่พบผลการค้นหา
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนออกมากล่าวในครั้งล่าสุดว่า สงครามยูเครนจะต้องจบลง ด้วยการปลดแอกไครเมียคืนจากรัสเซีย หลังจากที่สงครามในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา เริ่มขึ้นจากการที่รัสเซียยึดและผนวกไครเมียไปจากยูเครน

เซเลนสกีออกมาพูดถึงเป้าหมายในการปลดแอกไครเมียจากรัสเซียคืนมายังยูเครน ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ระบิดถล่มฐานทัพอากาศของรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณไครเมียที่ถูกผนวกไป ทั้งนี้ การโจมตีดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

เซเลนสกีออกมากล่าวถึงการปลดแอกไครเมีย โดยไม่ได้กล่าวอ้างอิงถึงเหตุการณ์ระเบิดฐานทัพอากาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (9 ส.ค.) แต่อย่างใด แต่ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า “ไครเมียคือสิ่งที่ยูเครนและเราจะไม่มีวันยอมเสียมันไป”

กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมากล่าวว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นจากการยิงกระสุนระเบิดใส่ฐานทัพอากาศในไครเมีย ในขณะที่ยูเครนออกมาปฏิเสธว่าตนไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อเหตุระเบิดดังกล่าว

จากข้อมูลความคืบหน้าล่าสุดที่แยกจากกัน ทางการยูเครนเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 11 คน จากการเข้าโจมตีโดยรัสเซียตลอดทั้งคืน ในตอนกลางของภูมิภาคดนิโปรเปโตรฟสก์ และมีผู้เสียชีวิตอีกหนึ่งรายในทางตอนใต้ของภูมิภาคซาปอริซเชีย

ไครเมียได้รับการรับรองจากนานาชาติว่าเป็นของยูเครน โดยในพื้นที่ดังกล่าวของคาบสมุทรทะเลดำถูกยึดและผนวกเข้าเป็นของรัสเซียในปี 2557 หลังจากการที่รัสเซียเปิดการทำประชามติ เพื่อหาเสียงสนับสนุนการผนวกรวมไครเมียเข้าเป็นของตน ซึ่งนานาชาติมองว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับกฎหมาย ชาวยูเครนหลายฝ่ายมองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม ที่ลากยาวมาถึงสงครามยูเครนที่เกิดขึ้นเมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีเหตุการณ์โจมตีด้วยระเบิดหลายครั้งในฐานทัพรัสเซียซากี ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กันกับบริเวณโนโวเฟโดริฟกา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของไครเมีย โดยจุดดังกล่าวอยู่ห่างกันออกไปไม่ไกลจากรีสอร์ตชื่อดังที่ใช้รองรับนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย

โนโวเฟโดริฟกาและซากีอยู่ห่างออกไปตอนเหนือ ของท่าเรือเซวาสโตโปลของรัสเซียประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ประจำการของกองเรือทะเลดำของรัสเซีย ซึ่งใช้ในการปิดกั้นแนวเดินเรือออกจากอ่าวของยูเครน ทั้งนี้ ฐานทัพอากาศดังกล่าวถูกใช้โดยทางการรัสเซีย เพื่อการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของยูเครน

จากภาพบนโซเชียลมีเดีย เปิดเผยให้เห็นถึงเหตุการณ์ระเบิดบริเวณดังกล่าว พยานในเหตุการณ์ระบุว่าพวกตนได้ยินเสียงระเบิดขึ้นประมาณ 12 ครั้ง ในขณะที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของไครเมีย ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ให้มีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 8 ราย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนกรานว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดจากกระสุนที่ระเบิดในร้านแห่งหนึ่ง และไม่มี "ผลกระทบจากการยิง" จากภายนอก แม้ว่ารายงานดังกล่าวจะไม่ได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงก็ตาม ในขณะที่ มีไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนออกมาปฏิเสธว่า ยูเครนไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว “แน่นอนว่าไม่ เราจะทำมันไปไม่เพื่ออะไร” โปโดลยักกล่าว

การโจมตีไครเมียโดยยูเครน ถูกมองว่าเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงมากจากมุมมองของรัสเซีย โดย ดิมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียได้ออกมาขู่เมื่อช่วงเดือนก่อนว่า “วันพิพากษาจะรออยู่ในภายภาคหน้าอย่างทันที” หากยูเครนทำการโจมตีไครเมีย

ในทางกลับกัน เซเลนสกีที่แถลงหลังจากช่วงหลังการโจมตีดังกล่าว ไม่ได้เอ่ยถึงเหตุการณ์ระเบิดในไครเมียแต่อย่างใด แต่เซเลนสกีย้ำว่า “เราจะไม่ลืมว่าสงครามของรัสเซียต่อยูเครนเริ่มขึ้นจากการเข้ายึดครองไครเมีย” ประธานาธิบดียูเครนยังได้กล่าวเสริมอีกว่า “สงครามรัสเซียนี้… เริ่มขึ้นที่ไครเมีย และจะต้องจบลงที่ไครเมีย ด้วยการปลดแอก”

การออกมาพูดในลักษณะดังกล่าวของเซเลนสกี อาจช่วยตอกย้ำว่าเป้าหมายในการยุติสงครามลงของยูเครน คือการยึดไครเมียและคาบสมุทรกลับมาเป็นของตนอีกครั้ง ในขณะที่เซเลนสกีเคยออกมาพูดถึงประเด็นไครเมียในอดีต ที่แตกต่างออกไปจากการแถลงในครั้งล่าสุด

เซเลนสกีเคยออกมาระบุว่า ยูเครนจะยอมเจรจาสันติภาพกับทางรัสเซีย หากรัสเซียย้อนคืนตำแหน่งและจุดยืนของตนกลับไปยังช่วงเวลาก่อนวันที่ 24 ก.พ. หรือวันที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนในวันแรก ซึ่งอาจหมายความว่าการเจรจาถึงประเด็นไครเมีย อาจเป็นหัวข้อในการพูดคุยที่แยกย่อยออกไประหว่างทั้งสองชาติ


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-62487303?fbclid=IwAR1Vp6aUwLzzmfldxnrECDqUFb-NRO34uLMSSitBonub9v28P3UO4NvniXs