ทางการออสเตรเลียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไฟป่าในกรุงแคนเบอรา ซึ่งจะเพิ่มอำนาจและทรัพยากรให้กับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง หลังไฟป่าทางตอนใต้ของกรุงแคนเบอรารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 โดยไฟป่าได้ลุกลามกินพื้นที่ไปมากกว่า 115,000 ไร่ โดยจะมีการใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะยังใช้ต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่แคนเบอรายังอยู่ในความเสี่ยง

เมื่อปี 2003 ไฟป่าบริเวณชานกรุงแคนเบอราได้คร่าชีวิตประชาชนไป 4 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 500 คน และทำให้บ้านเรือนเสียหายไปกว่า 470 หลังคาเรือน

ทางการกรุงแคนเบอรายังเตือนอีกว่า ไฟป่าในครั้งนี้ "อาจไม่สามารถควบคุมได้" เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นถึง 40 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังมีลมแรง นอกจากนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ชานกรุงแคนเบอราได้รับการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมพร้อมกับการอพยพ

ไฟป่าใกล้กรุงแคนเบอราลุกลามมาหลายสัปดาห์แล้ว โดยวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็มีคำสั่งปิดสนามบิน เนื่องจากไฟป่าลุกลามอยู่ใกล้รัศมีของสนามบิน และในวันเดียวกัย นักดับเพลิงของสหรัฐฯ ก็เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกใกล้บริเวณที่มีไฟป่า และช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โซเชียลมีเดียได้แชร์ภาพที่ไฟป่าทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดง

ทางการยังได้ออกประกาศเตือน "การท่องเที่ยวดูภัยพิบัติ" หลังมีรายงานว่า หลายคนขับรถเข้าไปใกล้บริเวณที่มีไฟป่าเพื่อไปถ่ายรูป

นับตั้งแต่เดือน ก.ย. ไฟป่าออสเตรเลียได้คร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 33 ราย บ้านเรือนเสียหายหลายพันหลังคาเรือน และพื้นที่ประสบไฟป่าเสียหายไปมากกว่า 68 ล้านไร่

ที่มา: BBC, The Guardian