นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการนำนายทินกร อ่อนประทุมและนายประเกียรติ นาสิมมา สมาชิกพรรคเยี่ยมตลาดสดทุ่งเจริญ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เพื่อรับฟังปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนว่า สภาพปัญหาโดยทั่วไปของชาวร้อยเอ็ดภายหลังการลงพื้นที่ในอำเภอเชียงขวัญและอำเภอจังหาร มีสภาพใกล้เคียงกับในเขตอำเภอเมืองและภาคอีสานโดยทั่วไป ซึ่งปัญหาใหญ่คือปัญหา “ที่ดิน น้ำ หนี้ และราคาพืชผลการเกษตร” โดยเฉพาะราคาข้าวซึ่งชาวนาที่ได้พบพูดตรงกันว่าที่ผ่านมาขายได้เกวียนละเพียง 5-6 พันบาท 

โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปค่อนข้างฝืดเคือง ซึ่งสะท้อนผ่านพ่อค้าแม่ขายต่างๆ ในตลาดสดเทศบาลทุ่งเจริญที่ตนมาเยี่ยม พบว่าเศรษฐกิจในพื้นที่ค่อนข้างเงียบ เหมือนกับภาคอีสานทั่วไปทั้ง สกลนคร นครพนม ขอนแก่น นครราชสีมา ที่ตนได้ไปพบมา รวมทั้งหลายจังหวัดทั่วประเทศ นั่นคือประชาชนทั่วไปไม่ค่อยมีกำลังซื้อ ยอดขายพ่อค้าแม่ค้าต่างๆ ในตลาดหายไปมาก ซึ่งหลายคนต่างคาดหวังกันว่ารัฐบาลชุดต่อไปอาจช่วยทำให้ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นได้ 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสอบถามของนายจุรินทร์ พบว่ายอดขายของแม่ค้าในตลาดลดลงประมาณร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับหลายปีก่อน โดยแม่ค้าขายปลาหมึกแห้งบอกว่าเมื่อก่อนขายได้วันละ 1,000 ตอนนี้เหลือ 500 แล้วก็มาเหลือ 300 เจ้าของร้านขายของชำบอกว่าทุกอย่างเงียบมาก ไม่รู้คนซื้อหายไปไหนหมด แม่ค้าขายมันพร้าว (มันจาว) บอกว่าเคยขายได้วันละ 7-80 กิโล วันนี้เหลือแค่ 3-40 กิโลเอง แม่ค้าขายขนมจีนบอกว่า “คนมากินขนมจีนหายไป 6-70% อยากไปเลือกตั้ง เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้นบ้าง” แม่ค้าขายปลาบอกว่า “ขายไม่ดีเลย 3 ปีที่แล้วได้วันละ 2-3,000 แต่ช่วง 3-4 เดือนมานี้เงียบมาก” โดยแม่ค้าพ่อค้าหลายคนในตลาดสดทุ่งเจริญต่างพูดคล้ายๆ กันเป็นภาษาอีสานว่า “โอ้ยยยเงียบมาก เงียบมิด ซีลี” แปลว่า “เงียบสนิท!”