เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยของอัฟกานิสถานยืนยันกับ สำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า ขณะนี้กลุ่มตาลีบันได้บุกเข้าถึงกรุงคาบูลแล้ว "รอบทิศทาง" แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายระเอียดข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ขณะที่บัญชีทวิตเตอร์ทางการของทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกานิสถานระบุว่า มีเสียงปืนดังขึ้นจากหลายพื้นที่ในกรุงคาบูล แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงซึ่งได้ร่วมปฏิบัติการกับพันธมิตรนานาชาติยังคงสามารถควบคุมสถานการณ์และควบคุมเมืองหลวงของประเทศได้อยู่
ด้าน AFP รายงานว่า นักรบของตาลิบันถูกสั่งให้คอยอยู่ที่พื้นที่ชานเมืองของกรุงคาบูลเท่านั้น ห้ามไม่ให้มีการบุกเข้าไปใจกลางเมืองหลวง ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยชี้ว่ารัฐบาลอัฟกานิสถานกำลังเตรียมความพร้อมในการ ‘ส่งผ่านอำนาจ’ หลังจากที่สหรัฐฯ ส่งกองทัพเข้าประจำการเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษตั้งแต่เกิดเหตุวินาศกรรม ‘9/11’ ซึ่งโฆษกกลุ่มตาลีบันยืนยันว่าความมั่นคงของเมืองหลวงยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลอัฟกานิสถานอยู่จนกว่ากระบวนการเปลี่ยนผ่านอำนาจจะสำเร็จ ซึ่งคาดว่าอัชราฟ ฆานี ประธานาธิดีอัฟกานิสถานจะลาออกจากตำแหน่งภายในไม่กี่วันนี้ หรืออาจเร็วกว่านั้น
ขณะเดียวกัน นักการทูตและเจ้าหน้าที่ประจำสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำอัฟกานิสถาน ได้เดินทางออกจากสถานทูตด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังสนามบินนานาชาติแล้วอย่างปลอดภัย ขณะที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ชี้ว่า เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (EU) หลายคนได้อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยในเมืองหลวงของอัฟกานิสถานแล้วเช่นกัน โดยเป็นสถานที่ที่เป็นความลับ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากกองทัพสหรัฐฯ อีกหลายหน่วยกำลังเดินทางเข้าสู่กรุงคาบูลเพื่อสมทบกำลังการช่วยเหลือเรื่องการอพยพผู้คน เนื่องจากความก้าวหน้าด้านศักยภาพทางการรบทำให้กลุ่มตาลีบันสามารถบุกเข้าถึงเมืองหลวงได้ในระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่วันเท่านั้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินไว้ว่ากรุงคาบูลน่าจะสามารถป้องกันการบุกเข้ามาของตาลีบันได้เป็นระยะเวลาอย่างน้อยราว 3 เดือน
ตัวแทนจากกลุ่มตาลีบันเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าทางกลุ่มไม่ต้องการให้มีการเสียเลือดเนื้อเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีสัญญาณของการประกาศหยุดยิงแต่อย่างใด ส่วน อัชราฟ ฆานี ประธานาธิดีอัฟกานิสถานก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยในวันที่ 14 ส.ค.เขาเปิดเผยว่ากำลังหารรือกับผู้นำท้องถิ่นอัฟกานิสถานและพันธมิตรนานาชาติอย่างเร่งด่วนเพื่อหาทางออกให้กับสถานการณ์อันตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าของวันที่ 15 ส.ค. กลุ่มตาลีบันสามารถเข้ายึดเมือง 'จะลาลาบาด' ทางตะวันออกของประเทศได้สำเร็จโดยไม่มีการปะทะใดๆ เกิดขึ้นเพราะนายกเทศมนตรีของเมืองยินยอมการบุกเข้ายึดแต่โดยดี ส่งผลให้ตาลีบันสามารถควบคุมหนึ่งในถนนไฮเวย์สายหลักของประเทศได้สำเร็จ อีกทั้งยังสามารถเข้าควบคุมเมืองพรมแดนที่ติดกับปากีสถานอย่าง 'ทอร์คาม' ได้สำเร็จ ส่งผลให้ในขณะนี้ทางหนีออกจากปากีสถานเหลือเพียงแค่สนามบินของกรุงคาบูลเท่านั้น ซึ่งยังคงถูกควบคุมโดยรัฐบาลอัฟกานิสถานอยู่
ในวันที่ 14 ส.ค.กลุ่มตาลีบันสามารถเข้ายึดเมืองใหญ่อันดับที่ 2 และ 3 ของประเทศอย่างเมืองกันดาฮาร์ และเฮรัต ได้สำเร็จ รวมยึดเมืองเอกไว้ได้ราว 10 แห่ง เป็นผลให้ ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตัวเองเข้ามาที่กรุงคาบูลอันเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายเพื่อความปลอดภัย หลายครอบครัวต้องพำนักอยู่ตามถนนหนทางของเมือง
ตามรายงานของบีบีซีระบุว่า นับตั้งแต่ที่กองกำลังสหรัฐฯ และพันธมิตรถอนทหารพ้นอัฟกานิสถาน กลุ่มตาลีบันได้ฟื้นคืนชีพบุกยึดเมืองต่าง ๆ ให้กลับเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของตนได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีพลเรือนผลัดถิ่นลี้ภัยสงครามแล้วกว่า 2 แสนราย จำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วยถึง 72,000 คน