ไม่พบผลการค้นหา
'ชัชชาติ' รุดให้กำลังใจผู้ต้องขังลอกท่อที่ตลาดห้วยขวาง ขอบคุณ ‘สมศักดิ์’ รมว.ยุติธรรม ให้ความร่วมมือ กทม. แก้ปัญหาระบายน้ำสู่เส้นเลือดใหญ่

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตลาดห้วยขวาง ติดตามความร่วมมือระหว่าง กทม. กับ กรมราชทัณฑ์ นำผู้ต้องขังลอกท่อระบายน้ำ โดยในจุดดังกล่าว ใช้ผู้ต้องขังจำนวน 72 ราย จาก 3 เรือนจำ ประกอบด้วย เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และเรือนจำจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ควบคุมการทำงานอีก 30 ราย เริ่มต้นภารกิจขุดลอกท่อตั้งแต่เวลา 09:00 น. จนถึงช่วงเย็นของวันนี้ ใช้เวลาทั้งสิ้น 3 วัน ครอบคลุมระยะทาง 5 กม. ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ที่ กทม. กลับมาว่าจ้าง กรมราชทัณฑ์ ให้นำผู้ต้องขังขุดลอกท่อระบายน้ำ อีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมา ติดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสัญญาว่าจ้างที่ทำกับภาคเอกชน

ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ กรมราชทัณฑ์มาลอกท่อ ตามที่ได้ขอความร่วมมือไว้ จึงขอขอบคุณ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยในส่วนของกรมราชทัณฑ์ จะรับผิดชอบลอกท่อทั้งหมด 530 กิโลเมตร จากแผนงานประจำปีทั้งหมด 2856 กิโลเมตร ทำให้จะมีการลอกท่อรวมทั้งหมด 3390 กิโลเมตร ในงบประมาณปี 2565 ซึ่งในระยะ 530 กิโลเมตร จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เชื่อว่าน่าจะได้ผลดี เพราะขยะอยู่เต็มท่อระบายน้ำ รวมถึงไขมัน และหน้าตลาดสดมีขยะเยอะ อาจจะมากกว่าตามห้องแถวทั่วไป

LINE_ALBUM_220620_23.jpg

โดยหลังจากนี้ กทม. ก็จะมีมาตรการบ่อดักไขมันเข้ามาช่วย เชื่อว่าจะดีขึ้น การระบายน้ำจะไปถึงเส้นเลือดใหญ่ ลงคลอง และอุโมงค์ระบายน้ำได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนอดทน เพราะการลอกท่ออาจจะมีปิดถนน 1 ช่องการจราจร ขอให้ช่วยกันดูแลผู้ต้องขังที่มาร่วมกันลอกท่อด้วย ซึ่งการปฏิบัติงานของผู้ต้องขังวันนี้ มีการป้องกันมากขึ้น ทั้งหมวกกันน็อก แว่นตา และถุงมือ ก็ดีใจที่ได้เห็นว่า กรมราชทัณฑ์ ดูแลสวัสดิการ ผู้ต้องขังในการมาช่วยงาน

นอกจากนี้ ชัชชาติ ระบุว่า ตลาดห้วยขวางเป็นจุดที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำท่วม และวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ของการร่วมมือกันของ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมามีโครงการมากมายในหลายจุด รวมถึงการลงไปแก้ไขในจุดเปราะบาง และยืนยันจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาทุกจุด

LINE_ALBUM_220620_5.jpg

เมื่อมีการลอกท่อแล้วจะเห็นว่าจุดไหนที่มีขยะเยอะ ก็จะต้องขอความร่วมมือประชาชน ให้ช่วยเหลือกัน ซึ่งหลังจากจะต้องทำแผนที่ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และไปทำบ่อดักไขมันอย่างไร ส่วนมากตลาดสดก็จะเป็นแบบนี้ทุกที่ เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งหลังจากนี้ กทม.ก็จะเข้ามาช่วยดูแลต้นทางมากขึ้น ซึ่งเมื่อรู้ต้นเหตุก็จะแก้ไขได้ ไม่ต้องไปโทษใคร” ชัชขาติ กล่าว

อย่างไรก็ดี ปัญหาใหญ่ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากการไม่ได้ลอกท่อมานานด้วย เมื่อมีขยะมาติด ก็จะติดต่อเนื่อง เพราะมีความฝืด ซึ่งหากทำสม่ำเสมอก็จะทำให้การการระบายไหลลื่นได้เช่นกัน

ชัชชาติ ยังพูดถึงการประชุมผู้บริหารกทม.เมื่อช่วงเข้าด้วยว่า มีการหารือเรื่อง ศบค. ที่ให้เลื่อนการถอดหน้ากากออกไป แต่สิ่งสำคัญที่พบในที่ประชุมศบค.คือ มีผู้ที่ยังไม่ได้วัคซีนบูสเตอร์ เข็ม 3 จำนวนมาก ทำให้ยังเป็นจุดเสี่ยง ซึ่ง กทม.ก็จะมากระตุ้น และช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปรับบูทเตอร์มากขึ้น อาจจะไม่ช่วยเรื่องติดโควิด และจะช่วยลดความรุนแรง

อีกทั้ง ศบค. มีการรายงานด้วยว่า นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา อันดับหนึ่งคืออินเดีย รองลงมาคือ มาเลเซีย สิงคโปร์ จึงสั่งการให้ฝ่ายวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร ติดต่อสถานทูตอินเดีย ในการหาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ หาช่องทางให้คนอินเดียเดินทางมาเมืองไทยให้มากขึ้น หากนักท่องเที่ยวอินเดียมาเยอะขึ้น ก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจกทม.ให้ดีขึ้นด้วย

LINE_ALBUM_220620_19.jpg

นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องงบประมาณปี 2566 โดยจะนำงบประมาณทั้งหมดลงเว็บไซต์ หลังส่งให้สภากรุงเทพแล้ว เพื่อให้ประชาชนได้ดูว่าจะใช้จ่ายอะไรยังไงบ้าง ตามนโยบาย Open Bangkok

ส่วนการเปิดผับบาร์ ไม่ได้กังวลเรื่องโควิด แต่กังวลเรื่องทางหนีไฟ ทางเข้าออก และมิติอื่นๆ

ทั้งนี้ วันนี้ก็จะมีการหารือเรื่องการให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) ให้บริการออนไลน์โดยไม่ต้องมาที่เขต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาดำเนินการ และยังช่วยลดความไม่โปร่งใสด้วย

ขณะที่ การหารือเรื่องสายสื่อสาร และการก่อสร้างที่ล่าช้า ก็ได้สั่งการในวันพรุ่งนี้ให้สำนักการโยธา สั่งยุติ ให้หยุดการก่อสร้างชั่วคราวของถนนวิทยุ และถนนสารสิน กรณีที่มีการเอาสายไฟฟ้าลงดิน เพราะพบว่าดำเนินการปิดฝาท่อไม่เรียบ ทำให้ประชาชนมีผลกระทบในการใช้รถใช้ถนน จะก่อให้เกิดอันตราย โดยจะให้แก้ไขฝาท่อให้เลียบก่อน โดยสั่งก่อสร้าง 3 วัน และถ้าไม่มีการแก้ไขก็จะไม่ให้เปิดทำการ