ไม่พบผลการค้นหา
พรรคเพื่อไทย สวน 'ประยุทธ์' บริหารล้มเหลว คอร์รัปชั่นพุ่งสูง แต่ส่งคนไร้เครดิตมาโต้มั่ว ท้า ออกทีวีชี้แจงความจริงทางเศรษฐกิจพร้อม 'พิชัย' ระบุหากยังแก้ตัวมากกว่าจะแก้ไข เศรษฐกิจไทยคงทรุดต่อไปอีก 10 ปีตามคำทำนายแน่นอน

ตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ควรส่งไร้เครดิตมาตอบโต้แทน แต่ควรออกมาแก้ไขและยอมรับว่า นอกจากเศรษฐกิจไทยจะทรุด ยังพบการทุจริตคอร์รัปชันที่มากมายในรัฐบาลตัวเอง ขนาดที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยจะรู้แต่ประชาชนรู้กันทั่ว 

ตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย นำทีมโดย พิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคด้านเศรษฐกิจได้ออกมาเสนอแนวคิดฟื้นเศรษฐกิจ 19 เรื่อง เพราะหากบริหารแบบในปัจจุบันเศรษฐกิจไทยจะทรุดหนักมาก ต่อมาได้มีบทความใน สื่อหลักต่างประเทศ นิเคอิ เอเชีย เขียนโดยวิลเลียม พีเซก คอลัมนิสต์ชื่อดัง ที่ได้ออกมาเตือนและตอกย้ำว่าการบริหารประเทศที่ล้มเหลว ของพล.อ.ประยุทธ์จะทำให้เศรษฐกิจไทยทรุดต่อไปอีก 10 ปีหลังจากที่บริหารล้มเหลวมาตลอดที่ผ่านมา โดยได้แนะนำในเรื่องเดียวกับที่ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยแนะนำมาตลอด 

อย่างไรก็ดี แทนที่พล.อ.ประยุทธ์ จะรับฟังและนำข้อมูลไปปรับปรุง กลับส่งคนที่ไม่มีต้นทุนทางสังคมมาโต้และตอบแบบมั่วๆ ยิ่งทำลายความน่าเชื่อถือของพล.อ.ประยุทธ์เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้หน่วยงานสากลระดับโลก ยังชี้ว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เพิ่มขึ้นสูง อันดับคอร์รัปชั่นหล่นลงจากอันดับที่ 101 ไปอันดับที่ 104 ขนาด IMD ที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยถามว่าจะเชื่อพิชัยหรือจะเชื่อ IMD ก็ปรากฏว่า IMD ให้คะแนนความโปร่งใสลดลง จาก 45 ลงมาเหลือ 41 ซึ่งแสดงถึง การคอร์รัปชั่นที่มากขึ้นอย่างมโหฬาร และปัจจัยที่ทำให้คอร์รัปชั่นพุ่งส่วนใหญ่มาจาก การลักลอบเปิดบ่อนการพนัน และ การลักลอบขนแรงงานเถื่อน ที่เป็นสาเหตุของการแพร่ไวรัสรอบใหม่ แต่กลับไม่มีการลงโทษและดำเนินคดีกับผู้รับผิดชอบ รวมถึงโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่พบการทุจริตที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ พบผู้กระทำความผิด 9,000 กว่าคนเสียหายกว่า 1.7 พันล้านบาทและยังมีอีกหลายที่

ตรีชฎา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ยิ่งการส่งคนต้นทุนต่ำที่ขาดความรู้ความเข้าใจทางเศรษฐกิจออกมาตอบโต้แทนยิ่งตอกย้ำแสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ขาดความรู้ความเข้าใจทางเศรษฐกิจ หรือ มีความรู้ทางเศรษฐกิจเพียงเท่านี้ โดยสิ่งที่ตอบมาเป็นสิ่งที่เลื่อนลอยขาดหลักการทางเศรษฐกิจ คิดเพียงต้องการโต้เพื่อปกป้องแต่ยิ่งกลับทำให้พล.อ.ประยุทธ์ไร้ต้นทุนตามไปด้วย โดยลองมาศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องดังนี้ 

  • ข้อ 1 เรื่องปรับโครงสร้างภาษีเพื่อเก็บจากคนรวยเพื่อมาช่วยคนจน แต่ที่ พรรค พปชร. หาเสียง (แต่ก็ไม่ได้ทำสักเรื่อง) และ กำลังพิจารณาคือลดภาษีบุคคลธรรมดาลง 10% ซึ่งตรงข้ามกับที่พูดไว้เองแต่กลับนำมาตอบ 
  • ข้อ 2 รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดอะไรที่จะหารายได้เข้ารัฐเลย นอกจากการเก็บภาษี แถมทุกปีการภาษีก็เก็บได้พลาดเป้ามาตลอดเพราะรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจล้มเหลว โดยนายพิชัยเคยเสนอให้เจรจากับประเทศกัมพูชาในพื้นที่ทับซ้อนเพื่อนำแหล่งพลังงานมาแบ่งกัน ซึ่งจะทำรายได้เข้ารัฐปีละหลายแสนล้านบาท รัฐบาลเคยติดนำไปทำแต่ก็ล้มเลิกไปเมื่อปรับ ครม. หรือ โครงการแลนด์บริดจ์ ที่เคยเสนอ รัฐบาลเคยบอกว่าจะทำแต่ก็เงียบหายไป ตลอด 6 ปีเกือบเหมือนสูญเปล่า เพราะไม่ได้ทำอะไรที่พัฒนาขึ้นเลย ถ้าพัฒนาจริงป่านนี้ เศรษฐกิจคงไม่ย่ำแย่ขนาดนี้ 
  • ข้อ 3 การเปลี่ยนระบบแพลตฟอร์มของราชการ (digitalization) และการใช้ เทคโนโลยีบล็อกเชน จะต้องเปลี่ยนทั้งระบบ การยกตัวอย่างเรื่องเล็กๆที่ทำบางเรื่อง แสดงถึงความไม่รู้ไม่เข้าใจของพลเอกประยุทธ์ จึงได้สั่งให้คนมาโต้แบบไม่รู้เรื่องนี้ 
  • ข้อที่ 4 ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพประเทศเดียวในอาเซียนที่ไม่มีบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หรือที่เรียกว่า ยูนิคอร์น เกิดขึ้นเลยตลอด 6 ปีนี้ ในขณะทึ่ประเทศอื่นที่มีศักยภาพในอาเซียนมีกันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย หรือ เวียดนาม เป็นต้น 
  • ข้อ 5 ยิ่งแสดงความไม่ฉลาด และไม่ทำการบ้านมาเลย ที่อ้างว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ เพราะความจริง รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เป็นรัฐบาลที่เก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลสูงที่สุด ตลอด 10 กว่าปีทีผ่านมา โดยเก็บลิตรละ 5.99 บาท ในขณะที่สมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเก็บเพียง 0.01 บาท หรือ เกือบจะไม่เก็บเลย ถ้าไม่ได้ศึกษาข้อมูลก็ไม่ควรจะมาตอบมั่วๆ ยิ่งแสดงความโง่เขลาของผู้ตอบโต้และผู้ที่ให้ตอบโต้แทน

ท้าออกทีวีชี้แจงความจริง

ตรีชฎา ระบุว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์มั่นใจว่า สิ่งที่ให้คนไม่มีต้นทุนทางสังคมมาตอบเป็นข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว ยังมั่นใจก็ขอท้าให้ออกทีวีชี้แจง พร้อมกับรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจเพื่อชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบความจริง จะได้เห็นความคิดที่แท้จริง และดูว่าประชาชนจะเชื่อใครมากกว่ากัน 

"แต่รัฐบาลต้องเลิกอ้างว่าเพราะวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ เพราะรอบแรกของวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดเศรษฐกิจไทยก็ตกต่ำมาตลอดอยู่แล้ว ถึงขนาดที่สื่อหลักต่างประเทศอย่าง เดอะ ไฟแนนเชียล ไทม์ วิจารณ์ประเทศไทยก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัสโควิดไว้แล้วว่า ประเทศไทยเป็นคนป่วยของเอเชีย และจะยิ่งป่วยหนัก และไทยก็ป่วยหนักจริงๆ โดยมีวิกฤตไวรัสโควิดเป็นตัวเร่งปฏิกริยาให้เศรษฐกิจไทยที่แย่อยู่แล้วจากการบริหารของพลเอกประยุทธ์ต้องทรุดหนักมากยิ่งขึ้น และถ้าพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่รู้ตัวและแก้ตัวมากกว่าจะแก้ไข เศรษฐกิจไทยคงทรุดต่อไปอีก 10 ปีตามคำทำนายเป็นแน่" ตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย