ไม่พบผลการค้นหา
"ชวลิต วิชยสุทธิ์" อยากได้ยินจากปาก "พล.อ.ประยุทธ์" บอก "พอแล้วกับการบริหารประเทศ" หลังการบริหารงานล้มเหลวหลายด้าน

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นว่า แม้ฝ่ายรัฐบาลจะมีการแก้ปัญหาแฟลชม็อบ ให้นำปัญหาเข้าไปถกในสภาฯ ด้วยการเสนอให้มีการตั้ง กมธ. วิสามัญให้นิสิต นักศึกษาส่งตัวแทนเข้าร่วมพิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาด้วย นั้น ตนเห็นว่า สถานการณ์มันสุกงอมแล้ว เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บริหารประเทศมา 6 ปี ถือว่านานมาก สภาพบ้านเมืองล้มเหลวทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการต่างประเทศ และที่สำคัญมาถึงจุดที่สถานการณ์มันสุกงอมดังกล่าวข้างต้น คือ สังคมเบื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มากมายจนลามไปถึงนิสิต นักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศตลอดจนเด็กนักเรียนมัธยมระดับหัวกะทิ (ครีม) ของประเทศ ออกมาเคลื่อนไหวแฟลชม็อบไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ลาออกจากตำแหน่งนารัฐมนตรี

โดยส่วนตัวเห็นว่า ในระดับนานาชาติ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นโมฆะบุรุษในสายตาชาวโลกมานานมากแล้ว ตั้งแต่ไม่รักษาคำพูดกับผู้นำระดับโลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปพบ ไปรับปากว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป แล้วก็เลื่อนการเลือกตั้ง เลื่อนแล้ว เลื่อนอีก โดยผู้นำระดับโลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ ผิดคำพูดไม่รักษาคำพูด ล้วนเป็นผู้นำสำคัญทั้งสิ้น ได้แก่ นายบัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ นายซินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

ส่วนในประเทศ พล.อ. ประยุทธ์ ไม่ได้ทำตามที่รับปากกับประชาชนที่จะปฏิรูปประเทศ จะสร้างความปรองดอง จะปราบคอร์รัปชัน ฯลฯ ที่สำคัญยังสร้างกติกาที่ทำให้การเมืองไม่มีเสถียรภาพเพียงเพื่อต้องการให้ตนเองและพวกพ้องได้อยู่ในอำนาจอย่างต่อเนื่องยาวนาน ประกอบกับการบริหารประเทศ 6 ปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชนได้รับผลกระทบกันถ้วนทั่ว และมองไม่เห็นหนทางว่าจะแก้ไขปัญหาได้ มีแต่จะจมลึกลงไปเรื่อยๆ

การจะอ้างว่าได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เพราะเสียงในสภาท่วมท้น พ้นสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำแล้ว นั้น ไม่อาจอ้างได้ ตรงกันข้าม วิญญูชนโดยทั่วไปกลับรังเกียจ การใช้ปาฏิหาริย์ทางกฎหมายช่วยพรรคเล็กให้มีที่นั่งในสภา การชอปปิง - การซื้อตัว ส.ส.ข้ามฟาก ข้ามอุดมการณ์หรือทึ่สังคมเรียก ส.ส.นั้นว่า "งูเห่า" ยิ่งสร้างความไม่ชอบธรรมให้กับฝั่งรัฐบาล อย่าคิดว่า นิสิต นักศึกษารวมไปถึงเด็กนักเรียนมัธยมจะไม่รู้เท่าทันหมากกลทางการเมืองเพื่อการสืบทอดอำนาจดังกล่าว

ฟางเส้นสุดท้ายที่เด็กออกมาเคลื่อนไหวก็ คือ อำนาจเผด็จการที่แฝงอยู่ในชื่อประชาธิปไตยก็เป็นเพียงประชาธิปไตยจอมปลอม ที่ทั้งชาวโลก และประชาชนคนไทยซึมซับแล้วว่า ไม่อาจแก้ไขปัญหาชาติ บ้านเมืองได้ ประจักษ์พยาน คือ ทุกครอบครัวเดือดร้อนกันหมด มากบ้าง น้อยบ้าง ที่มากก็ คือ คนจน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ ความเหลื่อมล้ำจะมากขึ้นๆ  

มีทางเดียวที่จะออกจากปัญหา คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องประกาศว่า "ผมพอแล้ว" เหมือนที่ครั้งหนึ่ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยประกาศเมื่อครั้งครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา 8 ปี ท่านบอก ท่านพอแล้ว แล้วท่านก็ลาออกอย่างเรียบง่าย ตนอยากได้ยินจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า "ผมพอแล้ว" จากนั้น บ้านเมืองจะมีทางออกตามกลไกประชาธิปไตยครับ