วันที่ 23 เม.ย. 2565 พรรคเพื่อไทย นำโดย วิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ส.ก. ดนุพร ปุณณกันต์ เลขานุการการเลือกตั้ง ส.ก. ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางขุนเทียน หมายเลข 5 ลงพื้นที่เอื้ออาทรบางขุนเทียน 2 เขตบางขุนเทียน เพื่อรับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ พี่น้องประชาชนชาวบางขุนเทียน ซึ่งในช่วงการระบาดของโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะเข้าไม่ถึงระบบการรักษา ขาดแคลนยารักษาโรค เนื่องจากภาครัฐไม่เตรียมพร้อมรับมือการระบาด ประเมินสถานการณ์ผิดพลาดสร้างผลกระทบกับประชาชนอย่างหนัก
ชาวชุมชนเอื้ออาทรบางขุนเทียน 2 ให้ความสนใจสอบถามนโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ทั้ง กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาทต่อปี , 50 เขต 50 โรงพยาบาล , 30 บาทถึงที่หมาย , 437 สถานศึกษาพัฒนาสร้างรายได้ และ 50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์ ที่มีแนวทางในการ ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระจายความมั่งคั่งให้แก่คนกรุงเทพฯ อย่างถ้วนหน้า’ รวมไปถึงปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ของชาวชุมชนที่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาหาทางแก้ไข อาทิ การกระจายศูนย์เด็กเล็กให้ทั่วถึงและสวัสดิการการดูแลผู้สูงอายุ
วิชาญ กล่าวว่า การระบาดของโควิดที่ผ่านมาส่งผลให้ประเทศเกิดวิกฤตต่อเนื่องอีกหลายอย่าง พี่น้องประชาชนยากลำบาก พรรคเพื่อไทย จึงเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของสุขภาพของพี่น้องประชาชน จึงนำเสนอนโยบาย ‘50 เขต 50 โรงพยาบาล’ เพื่อให้ทุกพื้นที่มีโรงพยาบาลใกล้บ้านอยู่ในเขตของตัวเอง ซึ่ง กทม.มีศักยภาพในการสร้างโรงพยาบาลทั้ง 50 เขต โดยเฉพาะงบประมาณของ กทม. มีกว่า 1 แสนล้านบาท หากเรามีเสียง ส.ก. ในสภา กทม. มากพอ เราจะมีพลังในการผลักดันนโยบายนี้ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
วิชาญ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย เห็นว่า กทม.ต้องเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดในอนาคต จึงเสนอให้ กทม. รับงบประมาณเงินกองทุนประกันสุขภาพจำนวน 15,000 ล้านบาท มาบริหารจัดการเองให้มีประสิทธิภาพเพื่อยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุข สังกัด กทม. ทั้ง 50 เขต เพื่อให้บริการทางการแพทย์พร้อมยกระดับการดูแลสุขภาพให้ครบวงจรให้คนกรุงเทพฯ
ขณะที่ พิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางขุนเทียน หมายเลข 5 กล่าวว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19ที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะคนบางขุนเทียนบางคนต้องถูกส่งไปรักษานอกพื้นที่ บางคนถูกส่งไปถึงหนองจอก ทำให้เกิดความยากลำบากอย่างยิ่ง พรรคเพื่อไทย มองเห็นปัญหาเหล่านี้และได้คิดแก้ไขอย่างเป็นระบบ โดยใน 1 เขตหรือ 1 โซน จะต้องมีโรงพยาบาลสำหรับดูแลประชาชนในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนยากลำบากถูกส่งตัวไปรักษาข้ามเขตและเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดในอนาคตเพื่อไม่ให้พี่น้องชาวบางขุนเทียนถูกลอยแพ เข้าไม่ถึงระบบการรักษา ขาดแคลนยารักษาโรคเหมือนที่ผ่านมาอีก