ต่างประเทศ
'จอร์จ คลูนีย์' เรียกร้องบอยคอตโรงแรมสุลต่านบรูไน ตอบโต้ก.ม.ปาหินเกย์
จอร์จ คลูนีย์ นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังเขียนบทความซึ่งเผยแพร่โดย Deadline เพื่อประณามการเพิ่มโทษคนที่มีพฤติกรรมรักเพศเดียวกันขึ้นจากการจำคุกสูงสุด 10 ปี เป็นโทษประหารด้วยการปาหินและเฆี่ยน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.เป็นต้นไป โดยรัฐบาลบรูไนระบุว่า กฎหมายนี้จะถูกบังคับใช้กับชาวมุสลิมเท่านั้น
นอกจากนี้ คลูนีย์ยังเรียกร้องให้คนบอยคอตโรงแรมของสุลต่าลบรูไน โดยเขากล่าวว่า สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ ประมุขของบรูไนเป็นหนึ่งในคนที่รวยที่สุดในโลก เป็นเจ้าของสำนักงานการลงทุนบรูไน ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมหรู 9 แห่ง เช่นโรงแรมเดอะเบเวอรีฮิลส์ เดอะโฮเทลเบลแอร์ โฮเทลอีเดนในอิตาลี เลอเมอรีซในฝรั่งเศส เดอะดอร์เชสเตอร์และโคเวิร์ธพาร์คในอังกฤษ
คลูนีย์ยอมรับว่า เคยพักในโรงแรมหลายแห่งของสุลต่านบรูไน แต่เป็นเพราะเขาไม่ได้ทำการบ้านมามากพอ จึงไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของโรงแรมเหล่านั้น พนักงานที่โรงแรมเหล่านั้นล้วนใจดีและช่วยเหลือเขาหลายอย่าง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าของโรงแรมแต่อย่างใด แต่เขามองว่า การไปเข้าพักหรือกินอาหารที่โรงแรมเหล่านี้เป็นการนำเงินไปให้คนที่เลือกจะปาหินและเฆี่ยนประชาชนในประเทศตัวเองจนเสียชีวิตเพียงเพราะเป็นคนรักเพศเดียวกันหรือนอกใจคู่สมรส
นักแสดงชื่อดังยังอธิบายต่อว่า แม้การบอยคอตโรงแรมนี้อาจไม่กระทบกับสุลต่านบรูไนมากนัก แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาได้เรียนรู้ว่าเราไม่สามารถรับมือกับระบอบที่โหดร้ายด้วยการทำให้พวกเขาอับอายได้ แต่เราสามารถทำให้ธนาคาร นักการเงินและสถาบันต่างๆ ที่ทำธุรกิจกับระบอบเหล่านี้อับอายได้
ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ นอกจากเกย์จะถูกลงโทษด้วยการปาหินแล้ว การลักทรัพย์ก็จะถูกลงโทษด้วยการตัดมือขวาในการกระทำผิดครั้งแรก และตัดเท้าข้างซ้ายในการก่อเหตุครั้งที่ 2
ด้านแอมเนสตี้ อินเทอร์เนชันแนล องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนสากลได้เรียกร้องให้บรูไนยุติการเพิ่มโทษใหม่ทั้งหมด โดยเรเชล โช-ฮาเวิร์ด นักวิจัยบรูไนกล่าวในแถลงการณ์ว่า การบังคับใช้บทลงโทษที่ทารุณและไร้มนุษยชนก็เป็นเรื่องน่ารังเกียจด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่บางข้อหาไม่ควรเป็นอาชญากรรมด้วยซ้ำ เช่น การร่วมเพศกันโดยสมัครใจระหว่างคนเพศเดียวกัน
ส่วนเดอะบรูไนโปรเจค กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า การเพิ่มโทษในหลายข้อหารอบนี้เป็นไปอย่างลับๆ คนส่วนใหญ่ในประเทศไม่รู้เลยว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้ในอีกไม่กี่วันนี้ ซึ่งกฎหมายนี้จะส่งผลกระทบกับกลุ่มคนหลากหลายทางเพศอย่างมหาศาล
ที่มา : Daily Mail, Pink News
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
