อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับผู้บริหารกรมสรรพสามิตวันนี้ (13 พ.ย. 2563) ว่า ได้มอบหมายให้กรมฯ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี โดยมีแนวคิดให้ศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีของเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อยกระดับมาตรฐานประหยัดไฟให้ได้มากกว่าเบอร์ 5 หรือเป็น 5+ จากเดิมที่การจัดเก็บภาษีเป็น 0% โดยแนวทางเบื้องต้นอยากให้มีการจัดเก็บภาษีในส่วนของเครื่องใช้ฟ้าที่มีมาตรฐานไม่เกินเบอร์ 5 ทั้ง เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็น เป็นต้น
ด้านลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า ปัจจุบันมีหลายประเทศที่มีการจัดเก็บภาษีจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมาตรฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศที่มากกว่าเบอร์ 5 หรือเรียกว่าเบอร์ 5 สามดาว คิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% ของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งถือว่ายังมีสัดส่วนที่น้อยอยู่ ขณะที่มาตรฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่ใช้ในปัจจุบันมีอายุหลายสิบปีแล้ว
อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า การจัดเก็บเครื่องใช้ไฟฟ้ายังเป็นเรื่องใหม่อยู่ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาก่อน และจะยังไม่มีการนำออกมาใช้ในช่วงนี้ โดยแนวทางเบื้องต้นอาจจะเป็นได้ทั้งการจัดเก็บภาษี หรือ ให้สิทธิพิเศษ เช่น การลดหย่อนภาษี สำหรับผู้ประกอบการที่จะสามารถยกระดับมาตรฐานการผลิตได้ แต่ทั้งหมดจะต้องมีการหารือร่วมกับกระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย