วันที่ 11 ม.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการมาตรวจราชการ จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมเรื่องป้องกันไฟป่า รวมถึงการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่โดยรวม 

ทั้งนี้ก่อนเข้าประชุมได้มีเรื่องด่วน โดยตนได้เซ็น ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ให้กับพรรคคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าสู่สภาทันวันนี้ พร้อมย้ำว่าวันนี้เพื่อมาติดตามหลังลงพื้นที่มาเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2566 โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมด้วย ทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์ โดยเรื่องแรกพูดถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งที่น่ายินดีว่าจุดความร้อนลดลง หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจาก 50 กว่า เหลือ 10 กว่า ซึ่งถือเป็นหมายในการเริ่มต้นปีด้วยดี แสดงว่าการที่เราลงพื้นที่ร่วมมือทำงานแบบบูรณาการจึงทำให้ค่าฝุ่นลดลงอย่างมีนัยยะ 

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมมาเต็มทีม ขนส่งทางรางและทางบก แบ่งเป็น 3 ส่วน โดยส่วนแรกคือถนน เชียงใหม่แบ่งเป็นสามวงแหวน วงแหวนหนึ่งสร้างมานานแล้วแต่ยังไม่ครบ ขาดช่วงหนึ่งที่ไม่เยอะ แต่กระทรวงคมนาคมก็มีแผนงานที่จะทำให้ครบโดยเร็ว ซึ่งเหลือพื้นที่ไม่กี่กิโลเมตร เพียงต้องการการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับกองทัพอากาศ โดยตนจะกลับไปพูดคุยกับกองทัพอากาศ ประสานทำการจราจรทางอากาศให้ครบ เพื่อลดการจราจรที่ติดขัดทางอากาศทางอากาศ ขณะเดียวกันก็จะทำให้ฝุ่น PM2.5 ลดลงด้วย

สำหรับวงแหวนส่วนที่สอง เป็นการยกระดับเหนือชลประทาน และวงแหวนส่วนสามจะทำให้การจราจรสะดวกขึ้น

“จะมีการทำเรื่องของรถไฟฟ้า อันนี้สำคัญมาก เพราะเราทราบกันดี นักท่องเที่ยวการท่องเที่ยวเชียงใหม่เยอะ และเมื่อเวลานักท่องเที่ยวมาก็ไม่ได้ขับรถ การจราจรอาจจะติดขัด ฉะนั้นหากมีรถไฟฟ้า และในกรุงเทพก็เป็นที่ประจักษ์แล้วทุกอย่างสะดวกสบายขึ้น ดังนั้นหากมี การท่องเที่ยวก็จะสะดวกสบายมากขึ้น และเมื่อวงแหวนครบลูป ก็จะทำเรื่องของรถไฟฟ้า เพราะระหว่างการทำรถไฟฟ้าการจราจรก็จะไม่ติดขัดเนื่องจากสามวงแหวนสามวงแหวนได้เสร็จแล้ว เมืองใหญ่รถไฟฟ้า มีนัยเพราะเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่ ติด 10 อุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรม ผมเชื่อว่าเมืองใหญ่ขณะนี้ มีนักท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ ถ้าไม่มีรถไฟไม่ได้ ผมคิดว่าต้องมี จะช่วยอำนวยความสะดวกสบาย และกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายความแออัดในเมืองออกไปชานเมืองได้ สำคัญกว่านั้นอากาศสะอาดเพราะไม่ได้ใช้รถยนต์ และเป็นการใช้มากขึ้นซึ่งถือเป็นการส่งเสริมนโยบายของรัฐบาลลดค่าฝุ่น 2.5” นายกฯ กล่าว

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เรื่องการสร้างรถไฟฟ้าที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางกระทรวงคมนาคมได้เริ่มศึกษาแนวทางและมีแผนแล้ว เชื่อว่าหลังนี้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระคมนาคม จะมีการแถลงรายละเอียด ส่วนเรื่องกรอบในการดำเนินการก่อสร้าง ต้องรอให้การก่อสร้างถนนวงแหวนรอบเชียงใหม่แล้วเสร็จก่อน เพราะหากทำควบคู่กันยิ่งจะกระทบต่อการคมนาคม

ส่วนเรื่องการปรับปรุงท่าอากาศยาน ที่จะเริ่มต้นภายในปีนี้ โดยมีการขยายพื้นที่ให้ทันสมัย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้หลาย 10 ล้านคน ตรงนี้เป็นอะไรที่เราสามารถทำได้เลย ส่วนระยะยาวจะมีการสร้างสนามบินแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจ เพราะเชียงใหม่เป็นหนึ่งในฮับการท่องเที่ยวของภูมิภาค

ส่วนเรื่องการเผาป่า เชื่อว่าภายใต้การนำของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ ดูแลกันได้ดีมาก จึงทำให้จุดความร้อนลดลงไป แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียว โดยมีประเทศเพื่อนบ้านทางกัมพูชา รวมถึง สปป.ลาว เมียนมา ซึ่งเมียนมากับลาวปัญหาน่าจะมาหนักโดยเฉพาะช่วงประมาณเดือนมีนาคมและเมษายน จึงต้องอาศัยการพูดคุยของกระทรวงการต่างประเทศ 

ทั้งนี้ สปป.ลาว เรามีความสัมพันธ์ที่ดี จึงเป็นไปด้วยดี แต่ทางเมียนมาค่อนข้างอาจจะซับซ้อนหน่อย แต่ยังมีระยะเวลาอีกประมาณเดือนครึ่ง โดยจะให้ ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงการเผาป่าจากชายแดนเมียนมาก็เป็นปัญหาสำคัญ แต่สำคัญกว่านั้นเดือนนี้และเดือนหน้าเป็นฤดูเผาป่าของทางด้านกัมพูชา เห็นได้จากแผนที่ ที่โชว์ค่าจุดความร้อน ซึ่งวันนี้ตนจะนำข้อมูลมาดูและช่วงบ่ายนี้จะยกหูคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพราะเรามีความสัมพันธ์ที่ดีและท่านเองก็มีความเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องนี้พอสมควร 

ส่วนเรื่องทรัพยากรในการดูแลไฟป่า ยังเป็นประเด็นสำคัญที่มีงบประมาณขาดแคลนจากกรมฝนหลวง ซึ่งตนได้ทราบนโยบาย โดยจะต้องมีการจัดซื้อจัดจ้าง บูรณาการอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องใช้เวลาเพราะการจะสั่งซื้อเครื่องบินหรืออะไรต้องใช้ระยะเวลา 1-2 ปีเป็นต้นไป แต่ในปัจจุบันได้มีการพูดคุยและขอร้องให้แม่ทัพภาคที่ 3 ดูแลพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารอากาศ หากมีเครื่องบินหรืออุปกรณ์ที่อาจจะยังไม่ได้ใช้หรือใช้น้อย ให้เราปรับปรุงนิดหน่อยแล้วมาใช้ได้ในแง่ของการปล่อยน้ำหรือทำฝนหลวงได้หรือไม่ เพราะหากช่วยเหลือกันได้ก็จะเป็นการทำงานที่ครบวงจร เป็นการทำงานทีมไทยแลนด์อย่างแท้จริง กอ.รมน. ก็สามารถช่วยได้อยู่แล้ว เพราะทำอยู่แล้วในแง่ของไฟป่า