พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงการป้องปรามเหตุความรุนแรง หลังเกิดเหตุการณ์ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ตื่นตัวและพร้อมที่จะลงไปเอกซเรย์ว่ามีผู้ติดยาเรื่อรังและไม่ได้รับการดูแลอย่างไร เพื่อนำมารักษา รวมถึงตรวจสอบกลุ่มผู้ป่วยจิตเวช และกลุ่มที่มีปัญหาความสัมพันธ์ที่เป็นต้นเหตุปัญหาความเครียดซึ่งมักจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายของแต่ละเรื่องอยู่เสมอ ฉะนั้นการดูแลต้องมีการสร้างความเข้าอกเข้าใจและทำให้ปรับตัวกับปัญหาดีขึ้น โดยตอนนี้ทุกที่ก็มีงานด้านสุขภาพจิตเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ของสังคมที่ต้องช่วยกันปรับตัว
เมื่อถามว่า มีการปักหมุดกลุ่มเสี่ยงที่จะก่อเหตุความรุนแรงหรือไม่ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า มี 3 กลุ่มหลักๆ อาทิ กลุ่มยาเสพติด ผู้ป่วยจิตเวชที่ไม่ได้รับการดูแล และความรุนแรงจากผู้ใกล้ชิดอาวุธปืน
สำหรับการป้องกันความรุนแรงจากคนที่ใกล้ชิดอาวุธปืน ไม่ได้มีเฉพาะตำรวจหรือทหารที่ใกล้ชิดเพราะด้วยหน้าที่ แต่ยังมีผู้ร้ายอีกมากมายที่ใกล้ชิดอาวุธด้วยซึ่งกลุ่มนี้ต่างหากที่เป็นตัวก่อเหตุเยอะซึ่งถือว่าเป็นตัวจริงในพฤติกรรมอาชญากร ส่วนตำรวจและทหารหากถามว่าใช่ แต่ถ้าผสมกับปัญหาเรื่องยาเสพติดและสุขภาพจิตที่รุนแรงก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยง
ดังนั้นการป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบนั้นคือการนำเสนอจากสื่อ เพราะการเสพสื่อประเภทนี้ซ้ำๆย้ำๆ มันจะทำให้ชินชากับความรุนแรง แต่อย่างไรสื่อหลักวันนี้การนำเสนอก็ดีขึ้น แต่ยังมีหลายสื่อที่ขยี้ประเด็นดังกล่าว ฉะนั้นเราก็ต้องช่วยกันปลุกให้โซเชียลหยุดสิ่งนี้แต่ถ้าหยุดไม่ได้ ก็ต้องหยุดที่ตัวเองด้วยการดูสื่อที่สร้างสรรค์มากขึ้น