วันนี้ (16 ธันวาคม 2567) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์บริเวณพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่องในช่วงวันที่ 16 ธ.ค. เนื่องด้วยบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนผลัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิลด 1 – 3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ในขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำ ปกคลุมภาคใต้ตอนล่างทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล

ในส่วนของกรมทรัพยากรธรณีแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีปริมาณน้ำฝนมากและมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เฝ้าระวังเป็นพิเศษช่วงวันที่ 16 – 17 ธันวาคม 2567 โดยเฉพาะในพื้นที่ 18 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพรหมคีรี ลานสกา สิชล ท่าศาลา ขนอม นบพิตำ พิปูน ร่อนพิบูลย์ ช้างกลาง ชะอวด นาบอน ทุ่งสง ฉวาง จุฬาภรณ์ ถ้ำพรรณรา ทุ่งใหญ่ บางขัน หัวไทร 

ทั้งนี้ ทางด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รายงานต่อที่ประชุม ศปช. เนื่องในปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและจังหวัด เข้าให้การช่วยเหลือสนับสนุนโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช ที่ยังคงได้รับผลกระทบเป็นอย่างหนักจากอุทกภัยในพื้นที่ ผ่านการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวจังหวัดนครศรีธรรมราช ในพื้นที่ในอำเภอ พรหมคีรี โดยใช้พื้นที่ส่วนต่าง ๆ และพื้นที่โรงเรียนในสังกัดเทศบาล รวม 10 แห่ง โดยสถานการณ์ในปัจจุบัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังคงเฝ้าระวังและติดตามอย่างเนื่องจากสถานการณ์น้ำที่แนวโน้มเพิ่มขึ้น

ทางด้านกองทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่บูรณาการการช่วยเหลือสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ในการเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ผ่านการดำเนินการอพยพประชาชนในพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัย จำนวน 22,130 คน เคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ รวม 253 ครัวเรือน และมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค รวม 73,400 ชุด

สำหรับการดำเนินการซ่อมแซมเส้นทางรถไฟสายใต้จาก กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี ทุ่งสง หาดใหญ่ ยะลา สุไหงโก-ลก สามารถเดินทางได้แล้ว แต่ยังมีเส้นทางที่ยังไม่สามารถใช้การได้คือ แยกสถานีชุมทางทุ่งสง – นครศรีธรรมราช โดยสถานการณ์ดังกล่าวการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

“ จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่ได้เกิดขึ้นและสร้างผลกระทบอย่างหนัก ที่ประชุม ศปช. ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการและประสานความร่วมมือหน่วยงานต่าง ๆ เร่งดำเนินการช่วยเหลือและดำเนินการเยียวยา โดยให้หน่วยงานภาครัฐส่วนต่าง ๆ เตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์ในการเข้าช่วยเหลือสนับสนุน” นางสาวศศิกานต์ ระบุ