วันนี้ (11 กันยายน 2567) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยถึงสถานการณ์ฝนตกหนักส่งผลให้เกิดเหตุอุทกภัย (น้ำท่วม) และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชน และเร่งบูรณะเส้นทางที่ประสบเหตุน้ำท่วมให้สามารถสัญจรได้อย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด
ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแล และอำนวยความสะดวก การสัญจรบนเส้นทางการจราจรต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตั้งป้ายเตือน และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ ยังได้ให้ทุกหน่วยงานรายงานความคืบหน้า และความเคลื่อนไหวสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันที เพื่อเตรียมแผนรับมือและช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ทล. ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงรายว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมและดินสไลด์ในโครงข่ายทางหลวง เกิดเหตุทั้งหมด 6 แห่ง ซึ่งในช่วง 24 ชม. ที่ผ่านมานั้น ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงาน เพื่อให้เส้นทางในการจราจรกลับคืนสู่ภาวะปกติ จึงทำให้ล่าสุดการจราจรสามารถผ่านได้ 5 แห่ง และยังผ่านไม่ได้ 1 แห่ง เนื่องด้วยเกิดภัยพิบัติจากเหตุน้ำกัดเซาะคอสะพานขาดบน ทล.1338 ตอนขาแหย่ง - ป่าเมี่ยง กม. ที่ 9+650 แต่ขณะนี้ได้เร่งติดตั้งสะพานเบลีย์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้การจราจรใช้ได้ตามปกติในช่วงเย็นวันนี้ (11 กันยายน 2567)
ขณะที่ ทช. รายงานว่าพื้นที่ภายใต้การกำกับดูแลของ ทช. มีการสัญจรผ่านไม่ได้ทั้งหมด 3 สายทาง ได้แก่
1) ถนนสาย ชร.1023 ช่วง กม. ที่ 10+500 - 12+000
2) ถนนสาย ชร.5051 ช่วง กม. ที่ 0+050 - 0+500
3) ถนนเชิงลาดสะพาน ชร.022 สะพานประชาร่วมใจ ช่วง กม. ที่ 1+450 - 2+000
ซึ่งทั้ง 3 สายทางดังกล่าว ได้ดำเนินการปิดการจราจร และติดตั้งป้ายเตือน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกประชาชนในพื้นที่แล้ว หากมีความคืบหน้าทาง ทช. จะรายงานเพื่อให้ประชาชนได้ทราบโดยทันที
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า (จท.) จัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถยนต์เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยบรรจุกระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่พร้อมยานพาหนะ 2 คัน และเรือตรวจการณ์ 1 ลำ ประจำ ณ ศูนย์ช่วยเหลือเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 (เชียงราย) เพื่อสามารถออกปฏิบัติงานในทันทีที่เกิดเหตุฉุกเฉินทางน้ำ หรืออุทกภัยในพื้นที่ และติดตามสถานการณ์และระดับน้ำอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนน้ำท่วม ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วน ทล. โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) และสายด่วน ทช. โทร. 1146