เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2566 จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตทวีวัฒนา พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ว.ขัดขวางวาระแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 159 และ มาตรา 272 ที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทย ว่าการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 2 มาตรานี้เป็นความพยายามแก้ไขเพื่อให้นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. และตัดอำนาจ ส.ว.เพื่อไม่ให้มีอำนาจในการโหวตเลือกนายกฯ อย่างไรก็ตาม การล้มมติดังกล่าวเป็นการขับเคี่ยวกันทางการเมืองซึ่งฝ่ายประชาธิปไตยได้ยื่นแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้มา 7 ครั้งแล้ว แต่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมประมาณ 25 ฉบับกลับถูกตีตก ผ่านเพียงฉบับเดียวคือกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งกฎหมายเลือกตั้งเรื่องการเปลี่ยนระบบแก้ไขเรื่องของบัญชีรายชื่อแล้วก็เขตเลือกตั้งเท่านั้น เหตุการณ์ดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาของฝ่ายอนุรักษนิยมที่จะยังคงต้องการสืบทอดอำนาจ คสช. ต่อไปอย่างชัดเจน

จิรวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีความพยายามโดย ส.ว. บางคน ที่หยิบยกประเด็นดังกล่าวโยนหินถามทางในเวทีการเมืองเพื่อจะใช้กลไก และเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญอุ้มนายกรัฐมนตรีที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต่ออายุของพล.อ.ประยุทธ์ไปให้มากกว่า 8 ปี ทั้งนี้ ประชาชนสามารถหยุดยั้งกระบวนการต่างๆเหล่านี้ได้โดยการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสเป็นนายกฯต่อ เพราะตนเชื่อว่า หากพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ จะมีการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อปลดล็อคกรอบเวลา 8 ปีนี้อย่างแน่นอน และอาจจะมีการแก้ให้รัฐธรรมนูญให้ ส.ว. คงอำนาจในการโหวตเลือกนายกฯ พร้อมต่ออายุของส.ว.จาก 5 ปีต่อไปอีกก็เป็นไปได้

“ยุทธศาสตร์การเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ เพื่อจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและมีนายกรัฐมนตรีที่มีฐานที่มาจากประชาชน แล้วพวกเราก็จะเข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัดอำนาจของส.ว. และสกัดไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราใดๆ ที่จะเป็นเงื่อนไขให้ พล.อ.ประยุทธ์สามารถรักษาอำนาจต่อไปได้” จิรวัฒน์ กล่าว