ไม่พบผลการค้นหา
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนกล่าวเรียกร้องไปยัง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเดินทางมาเยือนกรุงเคียฟ ก่อนจะย้ำชัดว่ายูเครนจะไม่ยอมเสียดินแดนของตนเองให้แก่รัสเซีย หลังจากประธานาธิบดียูเครนได้ให้สัมภาษ์กับทาง CNN ที่ออกอากาศเมื่อวานนี้ (17 เม.ย.)

“ผมคิดว่าเขาจะมา” เซเลนสกีระบุกับ CNN ในภาษาอังกฤษเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าทางยูเครนได้มีความคิดในการต้อนรับไบเดนในการเดินทางเยือนกรุงเคียฟหรือไม่ “แต่มันคือการตัดสินใจของเขา แน่ล่ะ และ (มัน) ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความปลอดภัย แต่ผมคิดว่าเขาคือผู้นำของสหรัฐฯ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงควรจะมาที่นี่”

ไบเดนได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (14 เม.ย.) ว่า สหรัฐฯ กำลังทำการตัดสินใจว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนใดในการเดินทางเยือนยูเครน เพื่อแสดงการสนับสนุนกับทางยูเครน โดยแหล่งข่าวระบุกับสำนักข่าว Reuters ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ อาจส่ง ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือไม่ก็เป็น แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการเดินทางเยือนยูเครน

คำพูดของเซเลนสกีถึงไบเดนในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรได้เดินทางมาเยือนกรุงเคียฟของยูเครนอย่างไม่คาดฝันเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการเดินทางเยือนกรุงเคียฟและเมืองบูชาของ อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิกการยุโรป อย่างไรก็ดี เจน ซากี โฆษกสื่อประจำทำเนียบขาวระบุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 เม.ย.) ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้มีกำหนดการในการเดินทางเยือนแต่อย่างใด

เซเลนสกีให้สัมภาษณ์กับทางสื่อสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ก่อนที่จะออกอากาศในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยย้ำเตือนภารกิจหลักของยูเครนในตอนนี้ทางตะวันออกของประเทศอย่างภูมิภาคดอนบาส ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ารัสเซียอาจทำสงครามที่รุนแรงและเด็ดขาดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อเข้าครอบครองพื้นที่ดังกล่าวแทนการยึดกรุงเคียฟและล้มรัฐบาลยูเครนตามเป้าหมายเดิมที่ล้มเหลวลงไป

ประธานาธิบดียูเครนระบุว่า ตนจะไม่ยอมเสียดินแดนทางตะวันออกของตนเองให้แก่รัสเซีย ทั้งนี้ ยูเครนมีทหารของตนเองประจำการอยู่ในภูมิภาคดอนบาสอยู่ที่ 40,000 นาย โดยสงครามจากทางรัสเซียในอีกระลอกอาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาอันสั้นนี้ 

เซเลนสกีย้ำอีกว่า ตนยังไม่ต้องการให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครน ซึ่งจำนวนมากเป็นเด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุที่จะเดินทางกลับมายังประเทศในตอนนี้ ถึงแม้รัสเซียจะถอนทัพไปอยู่แต่ในพื้นที่ทางตะวันออก แต่สถานการณ์ยังคงมีความอันตราย และรัสเซียอาจทำการทิ้งระเบิดแก้แค้นได้ทุกเวลา

“ผมไม่ไว้ใจทหารและผู้นำรัสเซีย ความจริงก็คือ เราจะสู้เพื่อขับไล่พวกเขาออกไป และพวกเขาละทิ้ง และวิ่งหนีออกไปจากเคียฟ และจากตอนเหนือ จากเชอร์นีอีฟ มันไม่ได้หมายความว่าถ้าพวกเขาสามารถยึดครองดอนบาสได้ พวกเขาจะไม่เข้ามาใกล้กับเคียฟ” เซเลนสกีกล่าว พร้อมแสดงความขอบคุณเงินช่วยเหลือด้านการทหารจากสหรัฐฯ มูลค่ากว่าอีก 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท) ที่เพิ่งได้รับการรับรองจากรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน

“แน่นอน เราต้องการอีกมาก แต่ผมดีใจที่เขากำลังช่วยพวกเราอยู่ในตอนนี้” เซเลนสกีระบุกับ CNN “ผมรู้สึกได้ว่าตอนนี้เรามีบทสนทนที่ชัดเจนขึ้น มันเป็นบทสนทนาที่เคยกลับไปกลับมา และมันไม่ใช่แค่การคุยกัน มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เนื่องจากมีหลายประเทศที่กำลังช่วยเราอยู่จริงๆ”

ทั้งนี้ เซเลนสกีแสดงความกังวลว่า รัสเซียอาจตัดสินใจใช้อาวุธเคมีและอาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครน “ไม่ใช่เพียงแค่ผม ทั่วทั้งโลก สำหรับพวกเขาชีวิตประชาชนไม่มีความหมายอะไร นี่แหละคือเหตุผล” ประธานาธิบดียูเครนย้ำว่า “เราควรจะคิดโดยไม่เกรงกลัว ไม่เกรงกลัวแต่เตรียมตัวพร้อม แต่นั่นไม่ใช่คำถามของยูเครน ไม่ใช่เพียงแต่ยูเครนแต่สำหรับโลกทั้งใบ ผมคิดนะ”

เซเลนสกียังได้ระบุอีว่า มีทหารของยูเครนเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 นาย และยังมีทหารที่ได้รับบาดเจ็บในสมรภูมิ ณ ตอนนี้กว่าอีก 10,000 นาย “และมันยากที่จะบอกว่าจะมีกี่คนที่รอดชีวิต” ทั้งนี้ ประธานาธิบดียูเครนอ้างว่า มีทหารรัสเซียเสียชีวิตแล้วอย่างน้อยในสมรภูมิที่ยูเครนกว่า 20,000 นาย


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/apr/17/zelenskiy-cnn-interview-biden?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR35-0i0si1c62L8450vQAHKAViTgsPvwqdfPMRp2qsakVeliN4q_v402G8

https://edition.cnn.com/videos/politics/2022/04/17/sotu-zelensky-part-2.cnn