เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (17 ก.ค.) ที่่ผ่านมา เว็บไซต์สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศแต่งตั้ง อากิระ นิชิโนะ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติญี่ปุ่นชุดฟุตบอลโลก 2018 เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อนำทัพ "ช้างศึก" ลงทำการแข่งขันในรายการฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2, ซีเกมส์ และฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่กำลังจะมาถึง

ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของสมาคมฯ ที่ได้แต่งตั้งโค้ชชาวเอเชียที่ไม่ใช่คนไทย ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอน 

สำหรับ อากิระ นิชิโนะ วัย 64 ปี มีประสบการณ์กับทีมชาติญี่ปุ่น ทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้ฝึกสอน โดยติดทีมชาติ 12 นัด ระหว่างปี 1977–1978 และเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติญี่ปุ่น ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี, 23 ปี รวมถึงทีมชาติชุดใหญ่ ที่พาทีมเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย

ในระดับสโมสร อากิระ นิชิโนะ เคยทำงานให้กับ คาชิวา เรย์โซล, กัมบะ โอซาก้า, วิสเซล โกเบ และนาโกยา แกรมปัส โดยเฉพาะกับ กัมบะ โอซาก้า ที่พาทีมคว้าทุกแชมป์รายการใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เจลีก, เอ็มเพอเรอร์ส คัพ, เจ ลีก คัพ, เจแปนีส ซูเปอร์ คัพ และเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 

ทั้งนี้ ยังเคยได้รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมของเจลีก ในปี 2000 และ 2005 เช่นเดียวกับรางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมของเอเอฟซี เมื่อปี 2008 อีกด้วย

โดยในวันที่ 19 ก.ค. อากิระ นิชิโนะ จะมีงานแถลงข่าวการเซ็นสัญญาขึ้น ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้ฝึกสอนวัย 64 ปี ให้เหตุผลว่า ต้องการจะแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนในบ้านเกิด ในฐานะที่กำลังจะทำหน้าที่ในต่างประเทศเป็นครั้งแรก ก่อนจะเดินทางมาร่วมงานกับสมาคมฯ ทันที

นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังเตรียมจัดแถลงข่าวในวันที่ มร.นิชิโนะ เดินทางมาถึงประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สอบถาม เรื่องการเตรียมทีม และความคิดเห็น หลังทราบผลการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ไว้เช่นกัน ทั้งนี้ สมาคมฯ ขอขอบคุณแฟนบอล และสื่อมวลชนทุกท่านที่ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว ผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ มา ณ โอกาสนี้

ไทย กลุ่มจีเจอคู่ปรับชาติอาเซียน - ยูเออี

เมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) มีพิธีจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ซึ่งจะมีการแข่งขันระหว่างวันที่ 5 ก.ย. 2019 - 9 มิ.ย. 2020 โดยแชมป์ของทั้ง 8 กลุ่ม และอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีม รวม 12 ทีมจะเข้าไปเล่นรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสุดท้ายและเข้ารอบสุดท้าย เอเชียนคัพ 2023 โดยอัตโนมัติทันที

สำหรับ 4 ทีมที่ดีสุดของทวีปเอเชียเข้าไปเล่นรอบฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ โดยอัตโนมัติ ส่วนทีมอันดับ 5 ของทวีป จะได้เล่นเพลย์ออฟกับตัวแทนจากต่างทวีป เพื่อคว้าสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 

โดย ทีมชาติไทย ถูกจัดอันดับอยู่ในโถ 3 จากทั้งหมด 5 โถ โดย ทิม เคฮิลล์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลียเป็นผู้จับสลากแบ่งสายทุกชาติด้วยตัวเอง ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากผู้เข้าร่วมงานคือ การจับสลากแบ่งสายในกลุ่มจี เมื่อ ทิม เคฮิลล์ จับสลากให้ทีมชาติในอาเซียนเข้ามาพบกันถึง 4 ชาติ ประกอบด้วย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เวียดนาม ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ทำให้คู่ปรับทีมชาติไทยต้องโคจรมาเจอกันอีกครั้ง

สำหรับ ผลการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง มีดังนี้ 

กลุ่ม เอ : จีน, ซีเรีย, ฟิลิปปินส์, มัลดีฟส์, กวม

กลุ่ม บี : ออสเตรเลีย, จอร์แดน, ไต้หวัน, คูเวต, เนปาล

กลุ่ม ซี : อิหร่าน, อิรัก, บาห์เรน, ฮ่องกง, กัมพูชา

กลุ่ม ดี : ซาอุดีอาระเบีย, อุซเบกิสถาน, ปาเลสไตน์, เยเมน, สิงคโปร์

กลุ่ม อี : กาตาร์, โอมาน, อินเดีย, อัฟกานิสถาน, บังกลาเทศ

กลุ่ม เอฟ : ญี่ปุ่น, ทาจิกิสถาน, เมียนมา, มองโกเลีย

กลุ่ม จี : ยูเออี, เวียดนาม, ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย

กลุ่ม เอช : เกาหลีใต้, เลบานอน, เกาหลีเหนือ, เติร์กเมนิสถาน, ศรีลังกา

โดยในรอบคัดเลือกรอบนี้ จะยังเป็นอีกครั้งที่ทีมแชมป์ของแต่ละสาย 8 ทีม บวกกับรองแชมป์ของสายที่มีผลงานดีที่สุด 4 ทีม จะได้ผ่านเข้าไปเล่นเอเชียน คัพ รอบสุดท้าย โดยอัตโนมัติ ซึ่งทั้ง 12 ทีม (ยกเว้นเจ้าภาพกาตาร์) จะมีการหา 4 ทีมที่ดีที่สุด เป็นตัวแทนทวีป ไปเล่นรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ขณะที่ทีมอันดับ 5 ของทวีป จะได้เล่นเพลย์ออฟกับตัวแทนจากต่างทวีป เพื่อคว้าสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 

สำหรับในรอบคัดเลือก รอบสุดท้าย จะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค. 2022 โดยฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ จะแข่งขันระหว่างวันที่ 21 พ.ย. - 18 ธ.ค. 2022

นัดแรกเปิดบ้านเจอคู่แค้นเวียดนาม เต็ง 1 อาเซียน

เว็บไซต์สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยังเปิดเผยโปรแกรมการแข่งขัน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ของทีมชาติไทย มีดังต่อไปนี้

1. วันที่ 5 กันยายน 2562 (เหย้า) พบกับ เวียดนาม

2. วันที่ 10 กันยายน 2562 (เยือน) พบกับ อินโดนีเซีย

3. วันที่ 15 ตุลาคม 2562 (เหย้า) พบกับ ยูเออี

4. วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 (เยือน) พบกับ มาเลเซีย

5. วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 (เยือน) พบกับ เวียดนาม

6. วันที่ 26 มีนาคม 2563 (เหย้า) พบกับ อินโดนีเซีย

7. วันที่ 4 มิถุนายน 2563 (เยือน) พบกับ ยูเออี

8. วันที่ 9 มิถุนายน 2563 (เหย้า) พบกับ มาเลเซีย

การแข่งขันทุกนัด ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สมาคมฟุตบอลฯ ประกาศตั้ง ‘อากิระ นิชิโนะ’ อดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่นคุมทัพช้างศึก