วันที่ 30 ส.ค. 2565 ในเวทีเสวนา "8 ปี ประยุทธ์ พอเถอะครับ ประเทศไทยต้องไปต่อ" อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า ไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทนอยู่ให้ตัวเองลำบากใจไปเพื่ออะไร ถึงเวลาต้องทำใจ มีลาภเสื่อมลาภมียศเสื่อมยศ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ไปเล็งปืน ดูนิทรรศการอาวุธได้ แต่วันถัดมาเข้าประชุมครม.ที่ทำเนียบฯ ไม่ได้ ต้องประชุมผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์
อนุสรณ์ กล่าวว่า เดือดร้อนไปถึงพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ไม่กล้านั่งเก้าอี้นายกฯ ต้องปล่อยเว้นว่างไว้ ใครจะการันตีความสัมพันธ์ของ 3 ป.อย่างไร นาทีนี้น่าจะไม่เหมือนเดิม พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนจะพยายามทำตัวให้ดูดี มีสปิริต ทำหน้าที่แข็งขันไม่ว่าจะตำแหน่งไหน แต่คำถามคือ ตอนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ควบรมว.กลาโหม ไม่เห็นจะใส่ใจการงานในตำแหน่งรมว.กลาโหมขนาดนี้ เห็นพล.อ.ประยุทธ์ เล็งปืน นึกถึงบรรยากาศงานวัด หมดสภาพผู้นำจากการรัฐประหารยึดอำนาจ จับคนไปปรับทัศนคติ มี มาตรา 44 ตอนเล็งปืน พล.อ.ประยุทธ์ เล็งเห็นอนาคตตัวเองหรือไม่
อนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า ได้เล็งเห็นอนาคตประเทศในวันที่ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไร ประชาชนอดทนรอความสุขที่บอกว่าจะคืนให้มา 8 ปี ถึงวันนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้ จึงอยากเริ่มต้นใหม่ ประเทศไทยต้องไปต่อ พล.อ.ประยุทธ์ อย่าทำตัวลับๆล่อๆผลุบๆโผล่ๆ ไม่ไหวอย่าฝืน หรือกลัวคนอื่นลืม เลยต้องโผล่หน้ามาให้เห็นเป็นระยะ จะส่งสัญญาณว่าสู้แค่ไหน ประชาชนขับไล่มากขนาดนี้ จะอยู่ได้อย่างไร ไม่ต้องกลัวว่านายกฯคนใหม่จะทำได้ไม่ดี เพราะประเทศไทยในช่วง 8 ปี ถึงจุดต่ำสุดในหลายด้าน คงไม่มีอะไรจะตกต่ำมากไปกว่านี้แล้ว สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ควรทำคือประกาศว่าผมพอแล้ว เพื่อให้ประเทศเดินหน้า
“ผู้นำต้องมีเกียรติยศศักดิ์ศรี พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องไปอาลัยอาวรณ์กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เคยเดินอาดๆชี้นิ้วสั่งการอยู่ดีๆ ผ่านไป8ปีโดนสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ดันขอมาเป็นลูกน้องรองนายกฯ ไม่สง่างาม” อนุสรณ์ กล่าว