วันที่ 11 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาวาระด่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 โดยสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) คมนาคม ชี้แจงพรรคก้าวไกลที่อภิปรายในประเด็นกระทรวงคมนาคม โดยระบุว่า การอภิปรายของ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ได้อภิปรายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลชุดก่อน ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด หลังจากนี้เมื่อตนได้รับตำแหน่ง รมว.คมนาคมนั้น มีหลายโครงการจะต้องศึกษาทบทวน หากมีอะไรที่ดีจะทำต่อ อะไรเป็นปัญหาต้องทบทวนเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน
ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดเส้นทางนั้นจะมีการดำเนินการต่อไป ขอยืนยันจะเริ่มทำทันทีเพื่อสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย โดยจะทำการรวบรวมสัมปทานเดินรถของเอกชนทุกเส้นทางและแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเจรจากับผู้ได้รับสัมปทานทุกราย ซึ่งการเจรจาจะมีหลายเรื่องต้องลงรายละเอียดอาจใช้เวลา 6 เดือน หลังจากนั้นนโยบาย 20 บาทตลอดเส้นทางจะดำเนินการได้ทันที
สุริยะ กล่าวว่า ในส่วนส่วนที่เป็นเส้นทางการเดินรถโครงการของรัฐ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีแดงวิ่งจากตลิ่งชันไปรังสิต รวมระยะทาง 41 กิโลเมตร 13 สถานี ในราคา 14-42 บาท ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อไปคลองบางไผ่ รวมระยะทาง 23 กิโลเมตร 16 สถานี ในราคา 14-42 บาท ตนจะให้มีการปรับราคา 20 บาทตลอดเส้นทาง โดยตนจะเร่งผลักดันให้ใช้ใน 3 เดือน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 ให้กับประชาชน สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีการอภิปรายว่ามีความไม่โปร่งใส โครงการนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดังนั้นโครงการนี้ที่มีปัญหาต่างๆ จะต้องรอ กทม.เป็นผู้ดำเนินการ โดยกระทรวงคมนาคมจะพร้อมให้การสนับสนุนบนหลักการความถูกต้องบนประโยชน์ของประชาชน
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้ม โครงการ MR-MAP และ Land Bridge ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งจะตรวจสอบมิติกฎหมายและประโยชน์ของประชาชนจะดำเนินการเพื่อความโปร่งใสและประโยชน์ของประเทศและประชาชน ส่วนแนวคิดที่แนะนำกระทรวงคมนาคมในอดีต สุรเชษฐ์ ก็เคยแนะนำ เท่าที่ทราบผู้บริหารกระทรทวงคมนาคมได้เชิญ สุรเชษฐ์ แล้วแต่ไม่ได้รับคำเชิญแต่อย่างใด ตนจะขอเรียนเชิญ สุรเชษฐ์มาให้รายละเอียดที่กระทรวงคมนาคมต่อไป
'ก้าวไกล' ไม่เชื่อดันรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ชี้ถ้าสายสีเขียวไม่ร่วมก็ไร้ประโยชน์
โดยก่อนหน้านี้ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายการแถลงนโยบายรัฐบาล ในด้านการคมนาคม โดยระบุว่า กลวงมาก ไม่มีความชัดเจนใดๆ ไม่มีรูปธรรม ระบุแค่ว่าจะปรับปรุงลงทุนทั้งทางถนน ทางรถไฟ ทางรางและทางอากาศไร้ทิศทางว่าจะเปลี่ยนจากอะไรเป็นอะไร จะไปทางซ้ายหรือไปทางขวา รัฐไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ไร้ข้อผูกมัดไร้ซึ่งสัญญา ที่ได้หาเสียงไว้ว่า 20 บาทตลอดสาย ก็ไม่ปรากฏ มีแต่ข่าวลอยๆ ในหนังสือพิมพ์
"จะบอกเวลาว่าเดี๋ยวทำเดี๋ยวไม่ทำ เดี๋ยวอ้างความเป็นพรรคร่วม บางคนบอก 3 เดือนบางคนบอก 2 ปี พลิกลิ้นไปเรื่อย ไม่มีความน่าเชื่ออะไรเลยรัฐบาลส้มหล่น พูดแบบนี้ใครก็พูดได้"
ส่วนประเด็นที่บอกว่าจะเดินตาม MR- MAP หรือแผนแม่บทมอเตอร์เวย์เร็ว ผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ และประเด็นMR- MAP สำคัญมาก เพราะคือแผนแม่บทการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สุด มูลค่าการลงทุนรวม คือ 5.7 ล้านล้านบาท แต่ปัญหาหลักของโครงการนี้คือความซ้ำซ้อน ไม่เลือกรูปแบบที่เหมาะสมในแต่ละเส้นทาง
แต่ละหน่วยงานต่างวางแผน แบบนี้เรียกว่าหาทำแบบยำรวม ผลก็คือเราจะมีเส้นเลือดใหญ่ ไม่เหลือเงินไปพัฒนาเมือง และเส้นเลือดฝอย ทำให้ละเลยคุณภาพชีวิตของคนต่างจังหวัด เข้าใจว่า MR-MAP ผิดคาดมาจากอดีต จึงอยากฝากให้นายกรัฐมนตรีไปศึกษาในรายละเอียดให้กระจ่างถึงความซ้ำซ้อน"
ขณะที่ความเป็นรูปธรรมก็คือการเร่งผลักดัน พ.ร.บ.กระจายอำนาจขนส่ง พ.ร.บ.ถนน ที่พรรคก้าวไกลยื่นต่อสภาไปแล้ว ให้ไปศึกษาและทำความเข้าใจ เหมือนแบบและช่วยกันหาเงินไปให้ท้องถิ่น ไปพัฒนากระจายอำนาจเม็ดเงินลงไป ด้านโครงการแลนด์บริดจ์ ก็มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน และจะรอดูผลการศึกษาที่ออกมาจะเสกมาหรือจะน่าเชื่อถือ แต่สิ่งสำคัญที่อยากจะฝากถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต้องมีความชัดเจนกับโครงการคลองไทยว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้
สุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึง นโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้โฆษณาไว้ 20 บาทตลอดสาย แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ 20 บาทตลอดสาย แต่เป็นตลอดทาง เพราะรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ มีหลายสาย ก่อนจะโฆษณาอะไรต้องทำความเข้าใจสินค้าของตัวเองก่อน มองว่า 3 เดือนก็ทำไม่ได้อย่ามาเพ้อเจ้อ บอกให้ชัดว่าจะใช้ตั๋วร่วมระบบไหน เครื่องจะติดตั้งเสร็จตอนไหน จะมีการเคลียร์เงินกันอย่างไร สายไหนจะมีการเข้าร่วมบ้าง
ถ้าสายสีเขียวไม่เข้าร่วมก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นเส้นทางหลักที่คนใช้เยอะที่สุด และในรัฐบาลของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาบอกว่านโยบายนี้ล้มเหลวไม่สามารถทำได้ เพราะกระทบต่อรายได้ผู้ถือหุ้น และอาจมีการฟ้องร้องกันในอนาคต มองว่า 20 บาททำไม่ได้ แต่ถ้าทำได้ก็ไม่สมควรทำ จะทำให้ว้าวุ่น
สุรเชษฐ์ ได้มีข้อเสนอคมนาคมเพื่อทุกคน 5 ข้อ
1.เปลี่ยนแนวทางการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากกระจุกเป็นกระจาย
2.กระจายอำนาจการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ
3. ผนวกความต้องการเท่ากับการพัฒนาอุตสาหกรรม
4.ค่าโดยสารร่วม 8-45 บาทในกรุงเทพและปริมณฑล
5.กระจายงบซ่อมและการสร้างถนนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
และยังฝากคำถามถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้มาตอบ
1.ท่านจะเดินตาม MR-MAP หรือปรับแผนแม่บทใหม่
2.ท่านจะเลือกเดินทางใดระหว่าง Land Bridge กับคลองไทย
3. 20 บาทตลอดสายจะไปต่อหรือพอแค่นี้
4. สายสีเขียวจะแก้ปัญหาหนี้อย่างไร 5 สายสีส้มจะประมูลใหม่หรือปล่อยไปแบบมีส่วนต่าง 68,613 ล้านบาท
ส่ังพักประชุมวันแรก หลัง สส.ก้าวไกล แห่ใช้สิทธิท้วงติงตลอดช่วงค่ำ
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 12 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาวาระด่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ซึ่งเป็นวันแรกหลังเริ่มต้นเปิดประชุมตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 11 ก.ย. 2566 โดยบรรยากาศในการประชุมช่วงค่ำ พรรคฝ่ายค้าน นำโดย พรรคก้าวไกล ให้ สส.ใช้สิทธิอภิปรายท้วงติงคำแถลงนโยบายของรัฐบาล โดย ครม.ลุกขึ้นชี้แจง อาทิ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์
ขณะที่พรรคก้าวไกล สส.ที่อภิปรายเป็นคนสุดท้าย คือ เลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ในการอภิปรายของ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เกี่ยวกับนโยบายดิจิทัล ได้สอบถามประธานที่ประชุมที่ไม่อนุญาตให้นำสไลด์ 3 แผ่นเกี่ยวกับคำสัญญาของนโยบายโดยมีรูปนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องนำมาอภิปรายในที่ประชุม ทำให้ สส.ก้าวไกล โดยณัฐวุฒิ บัวประทุม ต้องประท้วง พรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมที่วินิจฉัยว่าไม่จำเป็นต้องใช้สไลด์ดังกล่าว
ทั้งนี้พรเพชร วินิจฉัยต้องเป็นภาพในเชิงบวก และตนได้วินิจฉัยไว้แล้ว โดย ณัฐวุฒิ ได้ย้ำว่า ถ้ามีการนำเสนอภาพ ครม.ขึ้นในการอภิปรายหรือชี้แจงก็จะใช้สิทธิประท้วงในทุกครั้ง
เมื่อมีสมาชิกอภิปรายพอสมควรแล้ว วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้แจ้งที่ประชุมโดยสั่งพักการประชุมและนัดประชุมต่ออีกครั้งในเวลา 09.00 น.