เวลา 17.00 น. วันที่ 27 ม.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม ออกรายการผ่านพอดแคสต์ไทยคู่ฟ้า ถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า เรื่องวัคซีนตนคิดว่าหลายคนเป็นห่วงและมีความกังวล และมีคำถามมาว่าจะฉีดเมื่อไหร่ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลยืนยันว่าคนไทยทุกคนที่ต้องการฉีดจะได้รับการฉีดฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีและสตรีมีครรภ์ ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพของวัคซีน เพราะเรายังคงคำนึงเรื่องความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน ซึ่งวัคซีนที่เข้ามาจะต้องผ่านการรับรองของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) โดยระยะแรกรัฐบาลได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ประมาณ 19 ล้านคน ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 1.7 ล้านคน ,ผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่นโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคไตเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน 6.1 ล้านคน, ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 11 ล้านคน และเจ้าหน้าที่ควบคุมโควิดและมีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วย 15,000 คน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วัคซีนล็อตแรก 5 หมื่นโดสก็จะเข้ามาในเร็วๆ นี้โดยจะฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุข ตำรวจทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ตั้งแต่ 14 ก.พ. นี้ เป็นต้นไป
ส่วนระยะที่ 2 จะเริ่มประมาณเดือน พ.ค. 2564 ขึ้นอยู่กับวัคซีนจะทยอยเข้ามาได้มากน้อยเพียงใด โดยในส่วนนี้จะครอบคลุมประชาชนในกลุ่มที่มีความเสี่ยงลำดับถัดไป โดยกลุ่มเป้าหมายอาจมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์การแพร่ระบาดและประสิทธิภาพของวัคซีน รวมทั้งจำนวนวัคซีนที่หาได้ โดยขอย้ำว่ารัฐบาลจะดำเนินการทุกอย่างให้ดีที่สุดและต่อไปประเทศไทยก็จะเป็นฐานผลิตวัคซีนของอาเซียน โดยจะดำเนินการตามแผนจะรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเพียงพอกับความต้องการของคนไทยทั้งประเทศทั้งนี้ต้องการให้ฉีด มากเพียงพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันร่วมในประเทศไทย
ขอทุกคนเคารพกระบวนการยุติธรรม ย้ำไม่เป็นศัตรูกับใคร
พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุถึงเรื่องการเมืองด้วยว่า วันนี้ตนได้เห็นข่าวสารบ้านเมือง ซึ่งค่อนข้างหนักไปทางการเมือง เรื่องก็การเมืองก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติซึ่งมีความจำเป็นต้องร่วมมือกัน ว่าจะทำอย่างไรจะทำให้ประเทศชาติของเราปลอดภัย ประชาชนมีความสุข มีทางออกให้กับประเทศชาติของเรา ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนยังมีเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นทุกปัญหาที่ต้องแก้ไข รัฐบาลก็จะพยายามอย่างยิ่งยวด ภายใต้กฏหมายและกระบวนการต่างๆ ที่มีอยู่ กฏระเบียบในส่วนของการปฏิบัติตน ซึ่งก็ขอร้องให้ทุกคนปฏิบัติตามกฏหมาย เครพกระบวนการยุติธรรม ที่โปร่งใสและเป็นธรรม
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ในหลักการเจตนารมณ์ของตน และไม่ใช่ศัตรูใครทั้งสิ้น ดังนั้นก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเราจะรักกันและสามัคคีกัน นำพาประเทศชาติของเราไปสู่ความก้าวหน้า ไปสู่ความหวังในสิ่งที่เป็นอนาคตที่ดีกว่าวันนี้ และเราทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองไปด้วย รัฐบาลเองยินดีที่จะหน้าที่ให้ดีที่สุด ก็ขอฝากทุกคนไว้ด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังฝากความรักความคิดถึง ความห่วงใยมาถึงคนไทยทั่วประเทศด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย วันนี้เราต้องอดทนไปสักระยะหนึ่ง ตนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ในระหว่างเราจะต้องระมัดระวัง อดทนอดกลั้น ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลที่ออกไป ถ้าเราไม่ร่วมมือในวันนี้ เราโทษกันไปกันมา ก็ไม่เกิดการแก้ปัญหาอย่างครบวงจร ก็ขอโทษหากไม่ทันใจ แต่ตนก็พยายามเร่งรัดที่สุดแล้ว ในทุกๆมติ ทุกเรื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง