วันที่ 2 ต.ค. ที่อาคารรัฐสภา อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล กล่าวถึงการจัดสรรโควตาประธานกรรมาธิการวิสามัญ สภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่า หลังจากที่พรรคก้าวไกล ขับ ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก และรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ออกจากพรรค ทำให้สัดส่วน สส.ที่นำมาคำนวณเป็นประธานกรรมาธิการต้องลดลง จากเดิมที่ได้ 11 คณะ เหลือ 10 คณะ  

โดยจะเสนอประเด็นนี้ในที่ประชุมวิปรัฐบาลเพื่อหารือทางออก ผลเป็นอย่างไรต้องฟังมติวิปรัฐบาลอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในการหารือของที่ประชุมตัวแทนพรรคการเมือง ที่มี พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นประธาน เพื่อเจรจาจัดสรรโควตาประธานกรรมาธิการฯ นั้น ต่อกรณีสัดส่วน สส.ที่นำมาคำนวณโควตาประธานกรรมาธิการฯ ได้บันทึกไว้ในที่ประชุมด้วยว่า หากการตั้งกรรมาธิการฯ ยังไม่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ สัดส่วนดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ 

อัครเดช ระบุว่า ที่ผ่านมาในการจัดสรรประธานกรรมาธิการฯ พรรคก้าวไกลต้องการให้การเลือกตั้งซ่อม จ.ระยอง เสร็จสิ้นก่อน และเมื่อชนะได้ สส.เพิ่ม 1 คน ก็เป็นเหตุให้ได้ประธานกรรมาธิการฯ เพิ่มอีก 1 เก้าอี้ จากเดิมมี 10 เก้าอี้ แต่เมื่อพรรคก้าวไกลขับ ปดิพัทธ์ ออก ทำให้ สส.ลดลง 1 คน ดังนั้น จำนวนเก้าอี้ประธานกรรมาธิการฯ ก็ต้องลดลง ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติต้องได้เพิ่ม 1 เก้าอี้ โดยไม่ต้องแบ่งโควตาประธานกรรมาธิการฯ กับพรรคก้าวไกลคนละครึ่ง

อัครเดช ระบุว่า ผลของกรณีดังกล่าวจะเป็นอย่างไร ต้องรอผลการพิจารณาจากที่ประชุมวิปรัฐบาลอีกครั้ง โดย วิทยา แก้วภราดัย สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ประสานไปยังรองประธานสภาฯ คนที่ 2 และพรรคก้าวไกลไว้แล้ว