ทางการเขตลูชง-ซูแปร์บันแยร์ ที่อยู่บริเวณเทือกเขาปีเรเนส์ ในฝรั่งเศส จ้างเฮลิคอปเปอร์ขน 'หิมะ' น้ำหนัก 50 ตันจากยอดเขา มาถมยังลานสกีที่อยู่ด้านล่าง โดยใช้เวลาขนกว่า 2 ชั่วโมงเมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ (14 ก.พ.) ที่ผ่านมา
แอร์เว ปูโน ผู้อำนวยการเทศบาลท้องถิ่นในเขตลูชง-ซูแปร์บันแยร์ กล่าวว่า การขนย้ายหิมะในครั้งนี้อาจจะไม่เป็นไปตามหลักนิเวศวิทยาอย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็ไม่มีทางเลือก เพราะต้องทำเช่นนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจึงจะเดินหน้าต่อไปได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน
อุตสากรรมการท่องเที่ยวสกีรีสอร์ตบนเทือกเขาปีเรเนส์กำลังประสบกับปัญหาขาดแคลนหิมะอย่างหนัก หลังจากในช่วงฤดูหนาวปีนี้ หิมะตกน้อยว่าทุกปี และสกีรีสอร์ตหลายแห่งต้องปิดทำการชั่วคราว
แถลงการณ์ยังระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการขนส่งหิมะครั้งนี้อยู่ระหว่าง 5,000 - 6,000 ยูโร (หรือประมาณ 169,000 - 203,000 บาท) แต่คาดว่าจะมีรายได้จากท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 เท่าจากการลงทุนนี้'
นอกจากนี้ นายปูโนยังคาดว่า หากสกีรีสอร์ตเปิดดำเนินการได้ต่อไป จะช่วยให้พนักงานที่ดูแลความปลอดภัย 50 - 80 คนยังคงมีงานทำ รวมไปถึงครูสอนสกี พนักกงานลิฟต์ขนส่ง พนักงานร้านเช่าอุปกรณ์กีฬา รวมไปถึงคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การกระทำของเทศบาลท้องถิ่นฯ ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากนักนิเวศวิทยาชาวฝรั่งเศส ซึ่งมองว่าเป็นการสร้างปัญหาโลกร้อนเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการขนย้าย และเป็นการกระทำที่ "กลับหัวกลับหาง" และมีเพียงแต่กลุ่มคนรวยเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถจ่ายเงินเพิ่อทำสิ่งนี้ได้
ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2019 เป็นต้นมา สกีรีสอร์ตหลายแห่งทั่วโลกต่างประสบปัญหาขาดแคลนหิมะ หรือหิมะไม่เพียงพอต่อการให้บริการในลานสกีแก่นักท่องเที่ยว โดยเมื่อปลายปี 2019 โรงเรียนสกีในเมืองซัปโปโรของญี่ปุ่นก็ต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เนื่องจากไม่มีหิมะเพียงพอ
ที่มา The Guardian / Japan Times
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: