วันที่ 28 ธ.ค. 2564 สุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมติดแฮชแท็ก #จะรับใช้ด้วยหัวใจไม่เปลี่ยนแปลง โดยระบุว่า ประโยคที่เหมือนสโลแกนหาเสียงทั่วๆ ไปของนักการเมืองทั่วไปประโยคนี้ได้มาตอนช่วงหลังรัฐประหาร 2557 วันนั้นนั่งคิดอยู่กับเพื่อน บอกเพื่อนว่าอยากได้ประโยคที่เป็นคำสัญญากับประชาชนว่าเราจะไม่ทิ้งเขาไปไหน ช่วยกันคิด ตกลงใช้อันนี้หลังรัฐประหาร 10 วัน ชวนพี่น้องทีมงานมาประชุมกัน เพราะการทำงานการเมืองหลังรัฐประหาร เหมือนเดินไปบนทางที่ไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดมันอยู่ตรงไหน แล้วปลายทางจะเป็นยังไง ไม่รู้เลยว่าจะมีเลือกตั้งอีกทีเมื่อไหร่ กติกาจะเป็นยังไง เขตเลือกตั้งจะเหมือนเดิมมั้ย พรรคที่อยู่จะถูกยุบรึปล่าว ไหนอุปสรรคที่จะต้องเจอจากผู้มีอำนาจอีก
"ถามกันตรงๆกับทุกคนว่ามีใครอยากจะเลิก อยากจะหยุดมั้ย ถ้าไม่ไหวหยุดได้เลย เข้าใจและเคารพทุกการตัดสินใจ แต่ถ้าใครพร้อมจะเดินต่อไปด้วยกัน ขอให้ตั้งแต่วันนี้เราออกไปหาพี่ป้าน้าอาของเราแล้ว ทำให้เขารู้สึกว่าเรายังจะอยู่กับเขาเหมือนเดิมทุกวัน เราจะต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำว่าประโยคนี้มันไม่ใช่แค่สโลแกนหาเสียง แต่มันคือคำสัญญาที่เรามีให้กับพี่ป้าน้าอาของเรา และทุกอย่างมันต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ พี่น้องทุกคนพยักหน้าและบอกว่าเราพร้อมไปต่อ"
สุรชาติ ระบุว่า จากวันนั้นถึงวันนี้ ผ่านรัฐประหาร ผ่านกติกาที่ประหลาด ซับซ้อน ผ่านการเลือกตั้งที่ผิดหวัง เราก็ยังพยายามพิสูจน์ในสัญญานั้น เราอาจจะทำไม่ได้ดีที่สุด แต่เราได้พยายามและทุ่มเทถึงที่สุดแล้วในทุกๆวัน สำหรับพรรคการเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการวัดกระแสความนิยมก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สำหรับคนจตุจักร หลักสี่ นี่คือศักดิ์ศรีของคนพื้นที่ว่าต้องการผู้แทนฯแบบไหน
"สำหรับพวกเรา นี่คือการพิสูจน์สิ่งที่มากกว่าการเลือกตั้ง มากกว่าผลแพ้ชนะ มันคือการพิสูจน์อุดมการณ์ ความเชื่อและชีวิตของพวกเรา ความเชื่อทางการเมืองของพวกเรามันง่ายและไม่ซับซ้อน ไม่ต้องมีเล่ห์กล ไม่ต้องด่าใคร ไม่ต้องมีเงื่อนไขกับประชาชน ไม่ต้องขัดแย้งกับใคร เราเชื่อแค่ว่า ถ้าเราไม่ทิ้งประชาชน ประชาชนจะไม่ทิ้งเรา วันนี้เราก็ยังเชื่อแบบนั้น" สุรชาติ ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง