สมเด็จพระราชาธิบดีอัลสุลต่าน อับดุลเลาะห์ ชาห์ ทรงปฏิเสธการประกาศภาวะฉุกเฉินตามคำกราบบังคมทูลของนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิด ซึ่งอ้างเหตุผลเพื่อการรับมือต่อการระบาดของโควิด-19 แต่มีเสียงวิจารณ์ว่าการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินดังกล่าว เป็นความพยายามของนายกมูห์ยิดดินที่จะรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าพรรครัฐบาลยังคงสามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้อยู่หรือไม่
แถลงการณ์สำนักพระราชวังมาเลเซียเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ระบุว่า ภายหลังที่สมเด็จพระราชาธิบดีทรงร่วมหารือกับสภาผู้ปกครองของมาเลเซียในทุกรัฐแล้ว ทรงมีพระราชวินิฉัยว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ หรือพื้นที่ใดในมาเลเซีย การประกาศใช้อำนาจพิเศษดังกล่าวจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของของประเทศ ความเชื่อมั่นนักลงทุน ชีวิตความเป็นอยู่และสวัสดิภาพของประชาชนต้องมาเป็นอันดับแรก
"กษัตริย์และสภาผู้ปกครองทั้ง 8 รู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเคารพกลไกด้านต่างๆ ที่ตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจอำนาจของรัฐ รวมถึงบทบาทของสมเด็จพระราชาธิบดี (ยังดีเปอร์ตวนอากง) ที่ต้องทรงเป็นกลางและสร้างสมดุลของข้อเรียกร้องต่างๆ เพื่อให้เกิดความยุติธรรม และตรวจสอบการใช้อำนาจในทางที่ผิด" ตอนหนึ่งของแถลงการณ์วังมาเลเซียระบุ
ขณะเดียวกันสมเด็จพระราชาธิบดียังทรงมีพระราชดำรัส ชื่นชมรัฐบาลในความพยายามรับมือต่อการระบาดของโควิด-19 ทั้งยังทรงเรียกร้องให้ส.ส.ทุกฝ่ายหยุดเล่นเกมชิงอำนาจทางการเมือง เพราะจะยิ่งทำให้ประเทศขาดเสถียรภาพ
ท่าทีล่าสุดของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย มีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ได้เข้าเฝ้าฯเพื่อกราบทูลเสนอให้ใช้ประกาศภาวะฉุกเฉินที่รวมถึงการสั่งระงับการประชุมรัฐสภาด้วย โดยนายกฯมาเลย์อ้างเหตุผลเพื่อการควบคุมการระบาดของโควิด รวมถึงอนุมัติร่างงบประมาณประจำปี 2564 โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของสภา เพื่อให้รับมือการระบาดของโควิดอย่างไม่สะดุด ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยจากหลายฝ่ายที่มองว่า เป็นความพยายามสกัดการท้าทายของอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านที่พยายามโค่นอำนาจรัฐบาลมูห์ยิดดิน
ที่มา : The Star, Nikkei Asia