วันที่ 1 ก.ย. 2566 ที่ท่าเทียบเรือ โรงน้ำแข็งสิริไพโรจน์ ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มนพร เจริญศรี สส.นครพนม ว่าที่ รมช.คมนาคม พบปะผู้ประกอบการประมงในพื้นที่เกี่ยวกับประเด็น ผลกระทบจากประกาศของ IUU และแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง

สำหรับการเดินทางมาของนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นว่าที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ อรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาร่วมรับฟังผู้ประกอบการชาวประมงด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถยนต์ อัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน 8กผ 1127 ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนตัวของเศรษฐา เมื่อเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านและเจเาหน้าที่กลุ่มสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด มารอต้อนรับ ซึ่งได้มอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจให้นายเศรษฐา และร่วมถ่ายรูปด้วย จากนั้นเศรษฐา พร้อมคณะได้เดินไปดูบริเวณท่าเรือ และดูจุดส่งขนปลาและสัตว์ทะเลขึ้นรถแช่เย็น

โดย ชินชัย สถิรยากร เลขาธิการสมาคมประมงแห่งประเทศไทย รายงานว่า วันนี้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วโดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับชาวประมงในพื้นที่ พี่น้องชาวประมง เช่นเดียวกับมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมประมงสมุทรสงคราม ระบุว่า กฎหมายเจ้าท่าออกปี2561 บังคับให้กรมประมงมีวิทยุสื่อสารในทะเล หรือวิทยุมดขาว โดยสมัยนั้นตนชะลอไว้5 ปี ซึ่งครบกำหนด 21 ส.ค.2566 พอบังคับใช้ต้องมีวิทยุตัวนี้ ไม่เช่นนั้นไม่ออกใบอนุญาตให้ ทั้งที่ไม่ติดวิทยุนี้ก็ไม่ได้เสียหาย ประเด็นนี้ 

มงคล สะท้อนว่า การแก้ปัญหาประมงในประเทศเป็นแพะรับปาก โดยอียูมีปัญาหาเรื่องเรือเถื่อนในต่างประเทศเท่านั้น ทั้งที่ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาเรือเถื่อน แต่กลับเอาปัญหามาใส่ในประเทศให้กับชาวประมง จึงอยากเห็นรัฐบาลชุดนี้เข้ามาแก้ปัญหาโดยเร็ว โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายประมง เพราะมีการกำหนดโทษรุนแรงทำให้ชาวประมงเจ๊ง

โดยเจ้าหน้าที่มีการใช้กฎหมายลุแก่อำนาจโดยสั่งกล่าวหาและสามารถกักเรือได้ ชาวประมงอยากสู้คดีแต่สู้ไม่ได้ พร้อมฝากช่วงรอยต่อรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะกฎหมายลูก ในการแก้ไขกฎหมายลูก13 ฉบับไว้ให้กับรัฐบาลซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาชาวประมงได้ทันทีใน 90 วัน เมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ให้ช่วยนำกฎหมายที่มีปัญหาทั้งหมดมาคุยกับชาวประมง

ขณะที่เศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ได้กลับมาอีกสถานะหนึ่ง หลังจากที่ได้มาตอนหาเสียง ที่ก็ได้คุยเรื่องการประมงในขณะนั้น ซึ่งก็ทราบกันดีว่าเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะเรื่องก่อนหน้าที่จะมีกฎหมาย IUU ออกไป เราส่งออกปีละ 350,000 ล้าน แต่ตอนนี้เรานำเข้ากว่า 1.5 แสนล้าน ไปกลับก็ครึ่งล้านล้านต่อปี ช่วงที่เราตกต่ำไปก็เสียหายเป็นหลายล้านล้านบาท 

เศรษฐา กล่าวว่า ขอให้มั่นใจว่าเรื่องประมงภายใต้การนำพรรคเพื่อไทยจะให้ความสำคัญสูงสุด อะไรที่อยู่ในอำนาจ ครม. จะให้ ร.อ.ธรรมนัสเป็นหัวหน้าเชิญผู้เกี่ยวข้องมาพบปะพูดคุย และรัฐบาลจะเดินหน้าเปิดประตูการค้าด้วย ด้านปลอดประสพ กล่าวว่า กฎระเบียบระดับกระทรวงกำลังถูกทบทวน โดยนายกฯ ได้สั่งนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ได้เจรจาเพื่อนบ้านและเจรจาอียูด้วย

จากนั้น ศรษฐา ได้ร่วมรับประทานอาหาร ร่วมโต๊ะเดียวกันกับ ร.อ.ธรรมนัส นายไผ่ และแกนนำพรรคเพื่อไทย โดยมีเมนู ผัดกระเพราทะเล แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลา และปลาเค็ม โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่าในนี้มีเมนูโปรดของตน และก็ชอบกินผัดกระเพราอย่างมาก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่วันนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร มาดูแลความเรียบร้อยจำนวนมาก