ดีน พ่อของแก็ตลีย์เปิดเผยบนเฟซบุ๊กว่า ลูกชายของเขาได้ตัดสินใจลาออกจากกองทัพสหราชอาณาจักรเมื่อ มี.ค.ที่ผ่านมา “เพื่อเดินหน้าทำงานในฐานะทหารในพื้นที่อื่น” และเข้าช่วยกองทัพยูเครนในการปกป้องประเทศตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย
“เมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) เราได้รับข่าวเศร้าว่าลูกชายของเรา จอร์แดน ถูกยิงและสังหารในเมืองเซเวโรโดเนตสก์ ประเทศยูเครน… เขารักอาชีพของเขา และเราภูมิใจในตัวเขา เขาคือวีรบุรุษที่แท้จริง และจะอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป” ข้อความของดีนบนเฟซบุ๊กระบุ
เท่าที่มีการรายงานมา แก็ตลีย์อาจเป็นทหารสหราชอาณาจักรรายที่สองที่ถูกสังหารลงในสงครามยูเครน โดยฝีมือของกองทัพรัสเซีย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่ สก็อตต์ ซิบลีย์ ทหารผ่านศึกของสหราชอาณาจักรรายแรกถูกกองทัพรัสเซียสังหารลงเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
“เราได้รับหลายข้อความจากทีมของเขาที่อยู่ตรงนั้น ถึงความรู้อันหลากแหลมของเขา ฝีมือในฐานะการเป็นทหาร และความรักในอาชีพของเขา” แถลงการณ์ของครอบครัวแก็ตลีย์ระบุ “ทีมของเขาบอกว่าทุกคนรักเขาอย่างที่เรารัก และเขาได้สร้างความแตกต่างอย่างมหาศาลต่อชีวิตของใครหลายๆ คน ไม่ใช่เพียงแต่การเป็นทหาร แต่หมายรวมถึงการซ้อมรบให้กับกองทัพยูเครน”
“จอร์แดนและทีมของเขาภูมิใจในงานที่พวกเขาทำกันมา และเขาบอกกับผมอยู่บ่อยๆ ว่าภารกิจที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้นอันตราย แต่จำเป็น” แถลงการณ์ของครอบครัวระบุ ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรกล่าวถึงการเสียชีวิตของแก็ตลีย์ว่า “เราให้การสนับสนุนแก่ครอบครัวของชายชาวสหราชอาณาจักรที่เสียชีวิตในยูเครน”
จากข้อมูลเบื้องต้นเผยว่า แก็ตลีย์เคยเป็นพลปืนไรเฟิลในฐานทัพประจำเอดินบะระของสหราชอาณาจักร โดย มีไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครนเผยว่า ทั้งยูเครนและสหราชอาณาจักรจะจดจำการอุทิศตนของแก็ตลีย์ในครั้งนี้ “มันใช้ความกล้าหาญอย่างมากในการออกจากบ้านของตัวเอง และเดินทางจากมาไกลกว่าหลายพันไมล์เพื่อปกป้องในสิ่งที่เขาเชื่อถือ แค่หัวใจเขาบอกอย่างนั้น เพราะคุณไม่สามารถยืนข้างปีศาจได้”
มีการคาดการณ์ว่า มีชาวต่างชาติกว่าหลายพันคนที่ตัดสินใจเดินทางมายังยูเครน เพื่อเข้าช่วยรบต่อต้านการรุกรานของรัสเซียตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยตัวเลขจำนวนมากเป็นผู้ที่ถือสัญชาติสหราชอาณาจักร ถึงแม้ว่ากองทัพของสหราชอาณาจักรจะขอร้องให้ประชาชนของตนเองไม่เดินทางไปยังยูเครนก็ตาม
ที่มา: