นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี วันนี้ (17 ธ.ค.2567) จากที่ นายกฯแพทองธาร ติดตามและสั่งการ ศปช. ถึงการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้โดยเฉพาะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช โดยหลังประชุม ครม. นายกฯแพทองธาร ได้สั่งยกเลิกทุกภารกิจช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อเดินทางไปจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อประชุมร่วมกับส่วนราชการของกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง พลเรือนและจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้างานในพื้นที่เพื่อปรับแผนการช่วยเหลือ และการฟื้นฟูให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณในการเยียวยา ให้ตรงกับสภาพปัญหาของพื้นที่ และพบปะให้กำลังใจผู้ประสบภัยและมอบถุงยังชีพ
โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ส่วนหน้า ที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน ให้ปฏิบัติตามกำหนดการ ตามปกติ และเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้ทันท่วงทีตามที่ได้กำหนดแผนการไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และ พัทลุง จำนวน 54 อำเภอ 339 ตำบล 2,676 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 161,605 ครัวเรือน
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ ถึง 17 ธันวาคม 2567
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก วันที่ 17 ธ.ค. 67 ภาคใต้ : จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาสขอให้ระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้พื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขา
“คณะอนุฯ อำนวยการบริหารจัดการน้ำ” จับตาฝนใต้ต่อเนื่องยาวถึงเดือน ม.ค. 68 สั่งการเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีความจุเกิน 80%
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 67 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 5/2567 โดยมี ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กองทัพเรือ เป็นต้น
จากการติดตามสภาพอากาศจากฝน One Map พบว่า วันนี้ (17 ธ.ค. 67) บริเวณพื้นที่ภาคใต้จะยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากและจากปริมาณฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้อีก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส หลังจากนั้นช่วงวันที่ 18 - 22 ธ.ค. 67 ปริมาณฝนจะมีแนวโน้มลดน้อยลง จากการคาดการณ์ฝนภาพรวมในพื้นที่ภาคใต้ช่วงเดือน ธ.ค. 67 - ม.ค. 68 จะยังคงมีฝนตกแนวโน้มมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ดังนั้น ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยได้กำชับให้กรมชลประทานเฝ้าระวัง
อ่างเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความจุเกิน 80% อาทิ อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน จ.นครศรีธรรมราช อ่างเก็บน้ำคลองดินแดง จ.นครศรีธรรมราช อ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน จ.พัทลุง อ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง จ.พัทลุง
อ่างเก็บน้ำคลองสวนหนัง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อปรับแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งอ่างเก็บน้ำของกรมทรัพยากรน้ำที่มีการถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้ว ต้องเร่งสำรวจความพร้อมและความปลอดภัยให้มีสภาพพร้อมใช้งาน
ส่วนอ่างเก็บน้ำของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ได้แจ้งปิดการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 16 - 26 ธ.ค.67 เพื่อบรรเทาผลกระทบน้ำท่วมให้กับประชาชน
ส่วนอ่างเก็บน้ำ บางลาง จ.ยะลา ปัจจุบันมีน้ำใช้การ 83% ซึ่งยังคงอัตราการระบายน้ำที่ 18 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เนื่องจากระดับน้ำต่ำกว่าเกณฑ์ควบคุมสูงสุดแล้ว (URL) เพื่อเตรียมพื้นที่รองรับน้ำช่วงปลายปี และจะมีการปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อลดผลกระทบให้น้อยที่สุด