เซเลนสกีกล่าวเมื่อวันอังคาร (16 ม.ค.) ในที่ประชุมสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า ความลังเลใจของชาติตะวันตกในการมอบความสนับสนุนแก่ยูเครน และความกลัวว่าสงครามกับรัสเซียจะเกิดความบานปลาย ส่งผลให้เกิดการเสียเวลาและชีวิต และอาจยืดเยื้อการสู้รบไปอีกหลายปี
ด้วยการที่ชาติตะวันตกให้การสนับสนุนยูเครน ในช่วงการทำสงครามอย่างแข็งขัน ซึ่งขณะนี้กลับเกิดความสั่นคลอนท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เซเลนสกีกล่าวว่าชาติพันธมิตรยุโรปจำเป็นต้องเข้าใจว่า แผนการของปูตินนั้นไปไกลกว่าสงครามในยูเครน “อันที่จริง ปูตินปรากฎขึ้นในรูปของสงคราม… เขาจะไม่เปลี่ยนแปลง… เราต้องเปลี่ยนแปลง เราทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงจนถึงระดับที่ความบ้าคลั่งที่อยู่ในหัวของชายคนนี้หรือหัวของผู้รุกรานคนอื่นๆ จะไม่มีประสบกับชัยชนะ” เซเลนสกีกล่าว
เกือบ 2 ปีหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ เซเลนสกีกล่าวว่าเขาต่อต้านการระงับความขัดแย้งอย่างแข็งขันตามแนวทางปัจจุบัน “ปูตินเป็นนักล่าที่ไม่ปลื้มใจกับผลิตภัณฑ์แช่แข็ง” เซเลนสกีกล่าวพร้อมระบุเสริมว่า การคว่ำบาตรรัสเซียจำเป็นต้องมีการบังคับใช้อย่างเหมาะสม และการไม่มีการคว่ำบาตรด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียเป็นตัวอย่างหนึ่งของความอ่อนแอของชาติตะวันตก
ผู้นำสหภาพยุโรป และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) กล่าวสะท้อนข้อกังวลของเซเลนสกี โดยพวกเขาระบุบนเวทีที่ประชุมสภาเศรษฐกิจโลกว่า ชาติตะวันตกไม่สามารถละทิ้งการจัดหาอาวุธและเงินให้กับยูเครน หากต้องการให้ยูเครนได้รับชัยชนะจากสงครามการรุกรานของรัสเซีย
“ยูเครนต้องการเงินทุนที่คาดการณ์ได้ตลอดปี 2567 และต่อๆ ไป พวกเขาต้องการอาวุธที่เพียงพอและยั่งยืนเพื่อปกป้องยูเครนและยึดดินแดนกลับคืนมาโดยชอบธรรม” เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าว
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO กล่าวในที่ประชุมด้วยว่า การสนับสนุนยูเครนไม่ใช่การกุศล แต่เป็นการลงทุนในความมั่นคงของพันธมิตร “เราแค่ต้องยืนหยัดเคียงข้างยูเครน ในบางช่วง รัสเซียจะเข้าใจว่าพวกเขากำลังจ่ายราคาสูงเกินไป และนั่งลงและเห็นด้วยกับสันติภาพบางประเภท แต่เราต้องยืนหยัดเคียงข้างยูเครน” สโตลเทนเบิร์กกล่าว
การประชุมในครั้งนี้สวิตเซอร์แลนด์จัดขึ้น ในขณะที่กองทหารของยูเครนกำลังเข้าสู่ฐานตั้งรับมากขึ้น หลังจากที่การรุกตอบโต้ครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ไม่สามารถเจาะทะลุแนวป้องกันของรัสเซียในพื้นที่ยึดครองทางตอนใต้และตะวันออกของยูเครนได้
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของเซเลนสกี ปูตินได้ออกมายืนกรานว่ากองกำลังรัสเซียมีความได้เปรียบ “ไม่เพียงแต่การรุกโต้ตอบของพวกเขาล้มเหลวเท่านั้น แต่ความคิดริเริ่มยังอยู่ในมือของกองทัพรัสเซียทั้งหมด” ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวในการแถลงผ่านทางโทรทัศน์ “หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ความเป็นรัฐของยูเครนอาจถูกจัดการกับความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้และร้ายแรงมาก” ปูตินกล่าวเสริม พร้อมกล่าวโจมตีความเป็นไปได้ของการเจรจาสันติภาพกับยูเครนว่า ยูเครนเองได้พัฒนา "แผนต้องห้ามสำหรับกระบวนการสันติภาพ"
ในขณะนี้ ยูเครนได้มุ่งเน้นไปที่การพยายามได้รับความช่วยเหลือจากชาติตะวันตก ที่ต้องรอการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ และรัฐสภายุโรปในกรุงบรัสเซลส์ ในขณะที่ยูเครนกำลังปฏิรูปความพยายามในการเกณฑ์ทหารเพื่อเติมเต็มกำลังคน และจัดการกับปัญหาการขาดแคลนปืนใหญ่ในแนวหน้า
ในช่วงถามและตอบหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ เซเลนสกีกล่าวว่าเขาได้รับ “สัญญาณเชิงบวก” เกี่ยวกับการปลดล็อคการสนับสนุนทางการเงินจากสหภาพยุโรป ประธานาธิบดียูเครนยังกล่าวอีกว่า เขาหวังว่าสหรัฐฯ จะอนุมัติความช่วยเหลือเพิ่มเติมภายในไม่กี่สัปดาห์
พร้อมกันนี้ เซเลนสกีได้พบกับเจ้าหน้าที่อาวุโสนอกรอบการประชุม รวมถึง แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ สโตลเทนเบิร์ก และนักลงทุนระหว่างประเทศ อาทิ ผู้บริหารจากเจพีมอร์แกนเชส
ที่มา: