ไม่พบผลการค้นหา
กลุ่มคนร้ายติดอาวุธโจมตีรถขององค์กรไม่แสวงผลกำไรในอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย หนึ่งในนั้นเป็นแพทย์ชาวญี่ปุ่นที่เพิ่งได้รับเกียรติเป็น 'พลเมืองกิตติมศักดิ์' ของอัฟกานิสถาน

เว็บไซต์ VOA Thai รายงานว่า กลุ่มคนร้ายไม่ระบุจำนวนซุ่มโจมตีใส่รถขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Japan Medical Services (JMS) ในเมืองจาลาลาบัด จังหวัดนันการ์ฮาร์ ประเทศอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นนายแพทย์ชาวญี่ปุ่น

โฆษกรัฐบาลส่วนท้องถิ่นระบุว่า นายแพทย์ที่เสียชีวิตคือ นายเท็ตสึ นาคามุระ ประธานองค์กร JMS โดยระบุว่าเขามีบาดแผลจากการถูกยิงที่บริเวณหน้าอก

นอกจากนายนาคามุระแล้ว ยังมีคนขับรถและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรถคันดังกล่าวที่เสียชีวิตจากเหตุโจมตีครั้งนี้รวม 6 ราย ซึ่งทั้งหมดกำลังเดินทางไปยังสถานที่ก่อสร้างแห่งหนึ่งก่อนจะถูกโจมตี ทั้งนี้กลุ่มตอลิบานที่อยู่ในพื้นที่ ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีในครั้งนี้

VOA-Social Media เท็ตสึ นาคามุระ แพทย์ญี่ปุ่นถูกคนร้ายยิงที่อัฟกานิสถาน.jpg

(ภาพจาก VOA)

นายนาคามุระ วัย 73 ปี เพิ่งได้รับเกียรติให้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของอัฟกานิสถาน ในฐานะผู้บำเพ็ญประโยชน์ให้กับประเทศนี้ผ่านองค์กรการกุศลทางการแพทย์ Japan Medical Services

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประธานคนก่อนของ JMS ก็ถูกลักพาตัวและถูกสังหารเช่นกัน และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พลเมืองอเมริกันที่ทำงานให้กับสหประชาชาติก็ถูกสังหารในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานด้วย

REUTERS-ชาวอัฟกานิสถานจุดเทียนไว้อาลัยหมอญี่ปุ่น เท็ตสึ นาคามุระ ถูกคนร้ายยิงตาย.JPG
  • ชาวอัฟกานิสถานจุดเทียนไว้อาลัยแก่นายแพทย์นาคามุระและผู้เสียชีวิตทั้งหมด

ขณะที่ New York Times รายงานประวัติของนาคามุระเพิ่มเติม โดยระบุว่าเขาเดินทางไปยังพรมแดนปากีสถานและอัฟกานิสถานในยุค 1980 เพราะสนใจศึกษาเรื่องกีฏวิทยา แต่หลังจากคลุกคลีกับคนในพื้นที่ พบว่าชาวบ้านตามแนวชายแดนขาดแคลนบุคลากรการแพทย์ เพราะเป็นช่วงที่เกิดสงครามกลางเมือง เขาจึงเดินทางไปตั้งคลินิกเพื่อช่วยเหลือผู้คนในบริเวณดังกล่าว และภายหลังจึงได้ย้ายคลินิกไปอยู่ที่เมืองเควาร์ จังหวัดนันกาฮาร์ ประเทศอัฟกานิสถาน

แม้จะเริ่มต้นจากการตั้งคลินิกรักษาโรคเรื้อน แต่ภายหลังนาคามุระได้ขยายการทำงานช่วยเหลือคนในพื้นที่ โดยจัดตั้งโครงการชลประทานชุมชน เพราะเห็นว่าภาวะแห้งแล้งและขาดแคลนน้ำ ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก เกินกว่าที่การทำงานคลินิกจะช่วยได้ จึงริเริ่มก่อตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไรเพื่อบรรเทาทั้งความเจ็บป่วยและปัญหาขาดแคลนน้ำ ทำให้เขาได้รับความนิยมและไว้วางใจจากประชาชนในอัฟกานิสถาน และมีฉายาว่า Uncle Murad

นาคามุระได้รับรางวัลรามอน แมกไซไซ ของฟิลิปปินส์ ซึ่งมอบให้กับนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและผู้ที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเมื่อปี 2003 และเมื่อกลางปีที่ผ่านมา 'อาชราฟ กานี' ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน ประกาศให้นาคามุระเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์แห่งอัฟกานิสถาน

ส่วนชาวเมืองเควาร์ รวมถึงผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก ต่างเผยแพร่ข้อความไว้อาลัยและแสดงความเสียใจต่อการจากไปของนาคามุระ โดยหลายคนระบุว่า เขาจะเป็นที่จดจำตลอดไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม: