‘ควอนจองกัน’ ผู้อำนวยการใหญ่ด้านกิจการสหรัฐฯ ของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือยืนยันว่าเกาหลีเหนือไม่มีความประสงค์ที่จะนั่งเจรจากับสหรัฐฯ โดยขณะนี้ยังมีคนที่พูดถึงความเป็นไปได้ของเจรจาดังกล่าวอยู่ แม้ว่าก่อนหน้านี้ ‘โชซอนฮุย’ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือจะออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปฏิเสธแนวคิดนี้พร้อมระบุว่าเกาหลีเหนือไม่รู้สึกถึงความจำเป็นที่จะมีการประชุมสุดยอดครั้งใหม่ ซึ่งแถลงการณ์ของโชซอนฮุยมีขึ้นไม่กี่วันหลังประธานาธิบดี ‘มุนแจอิน’ ของเกาหลีใต้ซึ่งเสนอเป็นตัวกลางประสานระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือได้แสดงความหวังว่าน่าจะมีการประชุมสุดยอดอีกครั้งระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. 

ขณะเดียวกันแถลงการณ์ของนายควอนจองกันยังระบุว่า นี่เป็นเวลาที่เกาหลีใต้ต้องหยุดก้าวก่ายกิจการของประเทศอื่น แต่ดูเหมือนว่านี่จะไม่มีวิธีแก้ไขพฤติกรรมดังกล่าว 

ประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ของสหรัฐฯ และ ‘คิมจองอึน’ ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ พบกันครั้งแรกเมื่อปี 2561 ที่สิงคโปร์ ซึ่งในเวลานั้นก็ได้ทำให้เกิดความหวังว่าการเจรจาที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่การยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แต่การเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือก็หยุดชะงักนับตั้งแต่สิ้นสุดการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ในกรุงฮานอยเมื่อปีที่แล้วซึ่งไร้ข้อตกลง แม้ทั้ง 2 ฝ่ายจะจัดการเจรจาระดับคณะทำงานในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่มีความก้าวหน้าเกิดขึ้น

แถลงการณ์ของนายควอนจองกันมีขึ้นในขณะที่ ‘สตีเฟน บีกัน’ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำในการเจรจากับเกาหลีเหนือ เดินทางถึงกรุงโซลเพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้เพื่อหาทางฟื้นการเจรจาลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บีกันระบุว่านี่ถึงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องทำงานร่วมกันอีกครั้งและทำให้เกิดความก้าวหน้าที่สำคัญขึ้น แต่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 จะทำให้การประชุมแบบนั่นเจรจากันแบบต่อหน้าก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย. เป็นเรื่องยาก 

ทั้งนี้ สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา และเกาหลีเหนือยังได้ระเบิดสำนักงานประสานงานร่วมระหว่างสองเกาหลีที่อยู่ในฝั่งเหนือ ก่อนจะมีการระงับแผนปฏิการทางทหารที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด 

อ้างอิง CNA / Yonhap News Agency