เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 15 พ.ค. ที่ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)อาคาร บี ตึกกระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน อัยการร่วมสอบสวน ในคดีเครือข่าย นายสง่า กังวาล หรือ โกฟุก ฉ้อโกงภาษีน้ำมัน พร้อมด้วย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ในคดี เพื่อขอข้อมูลผู้บริหารบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)ซึ่งเกี่ยวพันกับการซื้อขายน้ำมัน
นายวัชรินทร์ กล่าวก่อนขึ้นบริษัท ไออาร์พีซี จำกัดว่าวันนี้ตนเเละคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอเดินทางมาประสานข้อมูลเรื่องพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดีนายสง่า หรือโกฟุก ที่โดนกล่าวหาฉ้อโกงภาษีน้ำมันซึ่งตนได้มีการประสานกับซีอีโอของไออาร์พีซีในการมาครั้งนี้เพื่อขอทราบข้อมูลไว้เรียบร้อย
ในส่วนที่ว่าไออาร์พีซีเกี่ยวข้องอย่างไรนั้น เพราะเรามีประเด็นเพิ่มเติม ซึ่งเป็นประเด็นที่ใหญ่มากเนื่องจากว่า ไออาร์พีซีเป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อขายน้ำมันและเราจะต้องมาตรวจสอบมีการซื้อขายน้ำมันมีรายละเอียดอย่างไรบ้างในส่วนที่ว่าจะผิดปกติหรือไม่อย่างไรนั้น ตอนนี้เราต้องขอขึ้นไปดูเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานเพราะว่ามีเอกสารหลักฐานบางอย่างที่เราต้องขอตรวจสอบดูก่อน เพราะว่าเป็นประเด็นที่ใหญ่มากๆของไออาร์พีซีกับโกฟุก
กรณีดังกล่าวมันเป็นการซื้อขายน้ำมัน ถ้าเป็นการซื้อขายน้ำมันถ้าเกิดขึ้นซื้อขายกันในประเทศไทยมันก็จะมีภาษีที่ต้องชำระ แต่ถ้าอ้างว่าเป็นการซื้อขายโดยอ้างว่าเป็นซื้อขายกับบริษัทที่อยู่ต่างประเทศแบบนี้มันจะไม่ต้องเสียภาษี หรือก็คือภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์อันนี้เราจะต้องตรวจสอบถึงการซื้อขายกันระหว่างไออาร์พีซีกับคุณสง่า กังวาล
ในส่วนที่จะต้องเป็นความผิดหรือเเจ้งข้อหาใครเพิ่มหรือไม่นั้น ในตอนนี้ยังไม่มีอันนี้คือเรามาตรวจสอบว่ามีพยานหลักฐานอะไรที่เกี่ยวพันกับเรื่องซื้อขายหรือไม่แต่ถ้าถามว่าเรื่องนี้ที่เรามาจะมีประโยชน์หรือไม่เกี่ยวกับการพิจารณาพยานหลักฐานก็ต้องบอกว่ามีประโยชน์มากๆ วันนี้เราไม่ได้มาค้นตึกไออาร์พีซี แต่เป็นเรื่องการให้ความร่วมมือมาดูเอกสารที่เราต้องการ เพราะเราสงสัยในเอกสารบางอย่างที่เรายังมีไม่ครบเราก็เลยต้องมาขอดูแล้วบังเอิญคุณกฤษณ์ อิ่มแสงซึ่งเป็นซีอีโอของบริษัทเป็นคนที่เข้าใจเรื่องและยินยอมให้เรามาดูรายละเอียดได้
โดยชุดพนักงานสอบสวนที่มาในวันนี้ก็มีตนในฐานะพนักงานอัยการร่วมสอบ พร้อมด้วยร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ และทีมพนักงานสอบสวนดีเอสไอทั้งหมด มีผู้เชี่ยวชาญของกรมสอบสวนด้วย ด้วยหลังจากที่มีการสอบสวนพูดคุยกันเเล้วแล้วก็น่าจะมีความคืบหน้าทางคดีอันนี้สำคัญมากเราจึงต้องมาเอง เเละถ้าได้ตรวจเอกสารเรียบร้อยก็จะรายงานความคืบหน้าให้กับประชาชนทราบต่อไป