กฤษฎีกามีเนื้อหาระบุถึงการตอบโต้ที่เป็นไปได้ หากทรัพย์สินของรัสเซียในต่างประเทศได้รับอันตราย โดยเนื้อหาของกฤษฎีกาเป็นการแสดงให้เห็นว่า รัสเซียได้ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวกับหน่วยงานของ Uniper บริษัทของเยอรมนีในรัสเซีย และสินทรัพย์ของ Fortum Oyj บริษัทของฟินแลนด์แล้ว กฤษฎีกายังระบุอีกว่า รัสเซียจำเป็นต้องใช้มาตรการเร่งด่วน เพื่อตอบโต้การกระทำที่ไม่ระบุรายละเอียดจากสหรัฐฯ และการกระทำอื่นๆ ที่ระบุว่า “ไม่เป็นมิตรและขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ”
ในเดือน ต.ค. ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรปกล่าวว่า สหภาพยุโรปกำลังมองหาการใช้สินทรัพย์ของรัสเซีย ที่ถูกยึดจากมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป ซึ่งถูกแช่แข็งเอาไว้ หลังจากรัสเซียเข้ารุกรานยูเครรน โดยความพยายามในการหาวิธีการใช้สินทรัพย์ที่ถูกยึดมาโดยสหภาพยุโรปนั้น จะเป็นไปเพื่อช่วยสร้างยูเครนขึ้นใหม่จากซากปรักหักพังของสงคราม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคาร VTB PAO ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันจันทร์ (24 เม.ย.) ว่า ทางการรัสเซียควรพิจารณาเข้ายึดทรัพย์สินของบริษัทต่างชาติในรัสเซีย เช่น Fortum และส่งคืนเมื่อมาตรการคว่ำบาตรต่อสงครามในยูเครนถูกยกเลิกเท่านั้น
กฤษฎีกาที่ปูตินเพิ่งลงนามระบุว่า หุ้นใน Uniper และ Fortum Oyj ถูกจัดให้อยู่ในการควบคุมชั่วคราวของ Rosimushchestvo ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านทรัพย์สินของรัฐบาลกลางรัสเซีย โดยสำนักข่าว TASS รายงานว่า ทาง Rosimushchestvo กล่าวว่า บริษัทต่างชาติจำนวนมากขึ้น สามารถพบสินทรัพย์ของตนภายใต้การควบคุมชั่วคราวของรัสเซีย
“กฤษฎีกาไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านกรรมสิทธิ์ และไม่ได้กีดกันเจ้าของจากสินทรัพย์ การจัดการภายนอกนั้นมีลักษณะชั่วคราว และหมายความว่าเจ้าของเดิมไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจด้านการจัดการอีกต่อไป” TASS รายงานอ้างหน่วยงานดังกล่าว
ในเดือน ก.พ. เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า รัสเซียควรแบกรับค่าใช้จ่ายจากความเสียหายมหาศาลที่เกิดจากสงครามกับยูเครน แม้จะระบุว่ายังคงมีเงื่อนไขที่เป็น "อุปสรรคทางกฎหมายที่สำคัญ" ในการยึดทรัพย์สินที่สำคัญของรัสเซียที่ถูกแช่แข็งอยู่
ในเดือน พ.ย. สหประชาชาติได้ลงมติเรียกร้องให้รัสเซียรับผิดชอบต่อการรุกรานยูเครน ซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และให้รัสเซียจ่ายค่าชดเชยสำหรับการทำลายล้างยูเครนและชีวิตที่สูญเสียไป โดยมติดังกล่าวระบุว่า รัสเซีย “ต้องรับผลทางกฎหมาย จากการกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมด รวมถึงการชดเชยการบาดเจ็บ รวมถึงความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการกระทำดังกล่าว”
การยึดสินทรัพย์ชั่วคราวของทั้งสองบริษัท อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ โดย Fortum ได้เตือนผู้ถือหุ้นในก่อนหน้านี้แล้วว่า มีความเสี่ยงที่ทรัพย์สินของรัสเซียอาจถูกเวนคืนจากทางการภายใต้ปูติน
Uniper ถือหุ้น 83.73% ในบริษัทเครือ Unipro ของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้จัดส่งก๊าซธรรมชาติไปยังเยอรมนีเป็นเวลาหลายปี ก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครน Uniper พยายามขายหุ้นใน Unipro โดยมีผู้ขอซื้อหุ้นดังกล่าว แต่ทางการรัสเซียไม่เคยอนุมัติการขาย
ที่มา: