ไม่พบผลการค้นหา
ภาคประชาชนออกแถลงการณ์ เรียกร้องรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมาชาติและสิ่งแวดล้อม ลาออกจากตำแหน่ง หลังเปิดยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร เมินเสียงคนทุกข์ยาก

แถลงการณ์กลุ่มประชาชนผู้รักความเป็นธรรมและภาคี #SAVEบางกลอย เรื่อง ขอประณามและเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งการปลดรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมาชาติและสิ่งแวดล้อมขอประณามปฏิบัติการภายใต้ยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร ระดมสนธิกำลังประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กองร้อย ตชด.144 ทหาร ฉก.ทัพพระยาเสือ ทหารรบพิเศษที่ 1 แก่งกระจาน กองกำกับการ 5 บก.ปทส. กองร้อยน้ำหวาน อช.แก่งกระจาน กองบิน ทส. หน่วยฯ พญาเสือ สำนักป้องกันฯ กรมอุทยานฯ จำนวนนับประมาณ 100 นาย

ลำเรียงกำลังทางเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติการขึ้นไปยังใจแผ่นดิน เพื่อกดดันให้ชาวบ้านบางกลอยลงมา โดยล่าสุดเวลาประมาณ 16.45 น. มีชาวบ้านถูกลำเลียงลงมาแล้วประมาณ 13 ราย ในนั้นมีเด็กเล็กอยู่ด้วย คาดว่าการลำเลียงชาวบ้านลงมาจนหมดคือเป้าหมายของปฎิบัติการครั้งนี้

เจ้าหน้าที่ได้ให้ชาวบ้านที่ถูกลำเลียงลงมาเซ็นเอกสาร ซึ่งเชื่อว่าเป็นคำให้การบางอย่าง โดยที่ชาวบ้านไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ แต่จำต้องเซ็นชื่อหรือลงลายนิ้วมือในเอกสาร และมีการถ่ายรูปชาวบ้านเอาไว้เป็นหลักฐาน ในขณะคณะทำงานฯ พยายามขอดูเอกสารดังกล่าว แต่ถูกปฎิเสธจากเจ้าหน้าที่ ถือเป็นการกระทำที่ไร้ความเป็นธรรมต่อชาติพันธุ์เกินกว่าจะยอมรับได้

ปฏิบัติการในครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้การบัญชาการของยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแน่นอนว่าปฏิบัติการครั้งนี้ได้รับไฟเขียวจาก วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


ไร้มนุษยธรรมนานกว่า 25 ปี 

ชาวบ้านจำนวน 36 ครอบครัว ที่กลับขึ้นไปยังใจแผ่นดิน ไม่สามารถอดทนกับความทุกข์ยากที่บ้านบางกลอยล่างได้อีกต่อไป ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าการอพยพในปี 2539 โดยมิได้มีการเตรียมพื้นที่รองรับ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณูปโภคเอาไว้แต่อย่างใด ชาวบ้านต่อสู้ดิ้นรนด้วยการไปรับจ้างแรงงานด้วยรายได้อันน้อยนิด ที่ดินที่ได้รับจัดสรรส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถเพาะปลูกข้าวได้ ชาวบ้านจึงอยู่ในภาวะทุกข์ยาก หนี้สินส่วนใหญ่มาจากการซื้อข้าวและอาหาร

"พวกเราในนามขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ขอประณามการกระทำเสมือนกับชาวบางกลอยมิใช่คนอย่างไร้มนุษยธรรมมานานกว่า 25 ปี และขอให้รัฐบาลสั่งการปลดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแลดล้อม ที่ไม่รับฟังเสียงทุกข์ยากของชาวบางกลอย และหูเบารับฟังเพียงข้อมูลจากหน่วยงานรัฐเพียงฝ่ายเดียว"


ย้อนเหตุการณ์รับข้อเสนอ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2564 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ นำชาวปกาเกอะญอแห่งบ้านบางกลอย ในนามกลุ่มประชาชนกลุ่มประชาชนผู้รักความเป็นธรรมและภาคี ประกอบด้วย ผู้แทนกะเหรี่ยงหลายกลุ่ม ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอความเป็นธรรมในการนำชาวบางกลอยกลับบ้านและเรียกร้องคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สู่พี่น้องชาติพันธุ์  

โดยร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมสั่งการให้ตำรวจควบคุมฝูงชน ถอนกำลังออกจากพื้นที่ทันทีเพื่อแสดงความจริงใจในการเจรจา ก่อนที่จะโทรศัพท์ขอเคลียร์กับ วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ขอให้ถอยคนละก้าวเพื่อตั้งโต๊ะเจรจาก่อนวันที่ 19 ก.พ.64 โดยในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.64) จะประสานผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เพื่อให้มีการเจรจา พร้อมขันอาสาขอเป็นคนหนึ่งที่จะช่วยเซฟบางกลอย  

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังรับ 3 ข้อเรียกร้องจากกลุ่มผู้ชุมนุม ประกอบด้วย ให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ถอนกำลังออก ไม่สกัดกั้นการส่งอาหารไปให้ประชาชนในพื้นที่ และรับปากว่า ผู้ที่เดินทางมาเรียกร้องในวันนี้จะไม่ถูกดำเนินคดีแม้แต่คนเดียว ส่วนคดีที่ติดอยู่ใน สน.บางซื่อ หลังการเรียกร้องก่อนหน้านี้ก็จะรับไปแก้ปัญหาให้

S__610402311.jpg

อ่านเพิ่มเติม