ไม่พบผลการค้นหา
ครม.อนุมัติหลักการออกกฎหมายจัดระเบียบเอ็นจีโอ บังคับต้องเปิดเผยรายได้ ยื่นภาษี เผยมีเอ็นจีโอรับเงินต่างชาติโยงการชุมนุม ทำประเทศเสียหาย

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ เพื่อให้องค์กรภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศร่วมกับภาครัฐ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารรัฐกิจตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ซึ่งร่างพระราชบัญญัติมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดกลไกในการส่งเสริมและสนับสนุนศักยภาพ และสร้างความเข้มแข็งขององค์การภาคประชาสังคม โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม จัดตั้งสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาชน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในรูปแบบต่างๆ อาทิ งบประมาณ

รัชดา


รัชดา กล่าวว่า ปัจจุบันมีการจัดตั้งองค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน (NGO) ในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีการจดทะเบียนถูกต้องเพียง 87 องค์กร ทำให้การกำกับดูแลของรัฐไม่ทั่วถึง และมีหลายองค์กรที่อ้างว่าเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ฯ แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ขององค์กรเพื่อสาธารณะประโยชน์ มีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น เพื่อกำกับดูแลในเรื่องดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีได้ทำการศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการกำกับดูแลองค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ฯ ในหลายประเทศ อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส อินเดีย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งมีสาระสำคัญที่คล้ายกัน คือ มุ่งเน้นเรื่องธรรมาภิบาลในองค์กรฯ และเสนอต่อ ครม. ซึ่งได้รับการเห็นชอบในวันนี้ โดยเป็นการเห็นชอบในหลักการร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน เพื่อให้มีกฎหมายกลางในการกำกับการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ฯ ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งมีสาระสำคัญกำหนดให้องค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ฯ ต้องดำเนินการดังนี้

1.ต้องจดแจ้งการเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ฯ กับกรมการปกครอง

2.ต้องเปิดเผยแหล่งที่มาและจำนวนของเงินหรือทรัพย์สิน ที่ใช้ในการดำเนินกิจกรรมในแต่ละปี และต้องยื่นแบบรายการภาษีเงินได้ทุกปี

3.ต้องเสนอรายงานการสอบบัญชี โดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตต่อผู้รับจดแจ้งภายใน 60 วัน นับแต่วันสิ้นปีบัญชี และให้ผู้รับจดแจ้งเผยแพร่ต่อสาธารณะ

4.กำหนดให้องค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ฯ จะรับเงินหรือทรัพย์สินจากบุคคลธรรมดา นิติบุคคล หรือคณะบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย หรือไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งในไทย มาใช้ในการดำเนินกิจกรรมในไทยได้เฉพาะกิจกรรมที่กฎหมายกำหนด

รัชดา


“ทั้งนี้ ครม. มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงมหาดไทยนำหลักการของร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน ไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายและส่งผลดำเนินการให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป และขอยืนยันว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นไปเพื่อส่งเสริมและกำกับดูแลองค์กรไม่แสวงหารายได้ฯ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันพัฒนาประเทศและสาธารณะประโยชน์ ไม่ใช่การจำกัดสิทธิเสรีภาพขององค์กรแต่อย่างใด” รัชดา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในที่ประชุมโดยยกตัวอย่างว่า มีเอ็นจีโอที่ จ.เชียงใหม่ไปรับเงินจากต่างประเทศมา พอถึงเวลาไปทำข่าวให้ประเทศเสียหาย เพื่อไปรับเงินมาต่อ ดังนั้นถ้ากฎหมายฉบับดังกล่าวออกมาถือเป็นเรื่องดีจะได้ตรวจสอบว่าเอาเงินมาทำอะไร เพราะเงินที่ได้รับบริจาคมามีจำนวนมาก ขณะที่หน่วยงานข่าวกรอง รายงานว่า เอ็นจีโอที่อยู่ในประเทศไทยมีเอ็นจีโอในเรื่องสิทธิมนุษย์ชน ซึ่งเกี่ยวกับการชุมนุมในขณะนี้ และส่งผลเสียต่อประเทศ ถือเป็นเรื่องดีที่จะมีกฎหมายมาควบคุมให้ชัดเจน