ต่างประเทศ
ยอดตายจากสึนามิอินโดนีเซียมากกว่า 800 รายแล้ว
หน่วยงานจัดการภัยพิบัติของอินโดนีเซียแถลงว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.5 แมกนิจูด และสึนามิในเมืองปาลู จังหวัดสุลาเวสีกลาง เมื่อเย็นวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 832 รายแล้ว แต่กังวลว่ายอดผู้เสียชีวิตจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก หลังเจ้าหน้าที่เข้าไปใกล้กับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยเฉพาะเมืองดองกาลา ซึ่งขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุความเสียหายได้อย่างชัดเจน เนื่องจากไฟฟ้าและการสื่อสารถูกตัดขาด
นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสมากกว่า 540 คน และมีการประเมินว่า น่าจะมีคนอพยพออกจากบ้านของตัวเองมากกว่า 10,000 คนตามศูนย์พักพิง 50 แห่งทั่วเมืองปาลู
หน่วยงานจัดการภัยพิบัติของอินโดนีเซียยังระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ แต่ปฏิบัติการกู้ชีพเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากถนนถูกตัดขาดและสะพานถล่ม นอกจากนี้ ยังขาดแคลนบุคคลากรและเครื่องมือหนักในจากยกซากปรักหักพังขนาดใหญ่ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่จำนวนมากต้องใช้มือเก็บกู้ซากแทน
ด้านโรงพยาบาลในเมืองปาลูได้ออกมาขอความช่วยเหลือประเภทเต๊นท์ ยารักษาโรค หลังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากทะลักเข้าไปขอรับบริการที่โรงพยาบาล จนเจ้าหน้าที่ต้องออกไปให้บริการผู้บาดเจ็บที่ล้นออกไปนอกอาคารโรงพยาบาล
ด้านสภากาชาดประเมินว่าน่าจะมีประชาชนมากกว่า 1.6 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งนี้ โดยแถลงการณ์ของสภากาชาดระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นโศกนาฏกรรมแล้ว แต่ก็มีโอกาสที่จะย่ำแย่ลงไปอีก
ยัน เกลฟานด์ หัวหน้าสภากาชาดสากลในอินโดนีเซียยังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ไม่ใช่แค่คนในเมืองใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่อยู่ในชุมชนห่างไกลเข้าถึงได้ยาก
"ประวิตร" แสดงความเสียใจดินไหวในอินโดฯ สั่งกองทัพติดตามสถานการณ์
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กล่าวแสดงความเสียใจ กับสูญเสียของประชาชนชาวอินโดนีเซีย จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมืองปาลู เกาะสุลาเวสี
พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้กลาโหมโดยทุกเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อม สนับสนุนและให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ โดยให้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอให้ใช้ช่องทางการทูตทหาร และ ศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดตั้ง ณ กรมแพทย์ทหารบก ประสาน เตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือทางการแพทย์เร่งด่วน ตามแผนที่เคยฝึกร่วมกันควบคู่กันไป
ข่าวเกี่ยวข้อง :
ที่มา : BBC, CNN, Channel News Asia
