ใครจะเชื่อว่า 'นิ้ง - โศภิดา กาญจนรินทร์' สาวมั่นผู้จัดการวานิชธนกิจ ธนาคารทหารไทย ในวัย 23 ปี ผู้ครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 จะเคยเป็นเด็กน้อยอ้วนดำ ไม่ตั้งใจเรียน แถมยังตัดผมสั้นหน้าม้าจนเพื่อนๆ ล้อว่า ‘หนูหิ่น’ หรือ ‘ดำตับเป็ด’ จนเธอต้องมานั่งเสียใจอยู่บ่อยครั้ง
“นิ้งมีความฝันอยากจะเป็นนางงาม สวมมงกุฎ ยืนโบกมือบนเวที เพราะนิ้งมีปมด้อย นิ้งไม่ใช่คนสวยมาก่อน ตอนเด็กอ้วนดำ แบบโอ้โหดำมากเลย ดำตับเป็ด อายุ 12 ปี น้ำหนัก 38-40 กิโลกรัม อ้วนมากแก้มย้วย ล้อว่าหูแหว่งก็มีนะ ตอนเด็กๆ ประสบอุบัติเหตุจนหูขาด ช่วงนั้นเพื่อนก็ล้อหูแหว่ง แต่ก็เย็บรักษาจนหายปกติ”
สมัยก่อนเธอเป็นเด็กอ้วนที่รักการกิน เล่นสนุก และไม่ตั้งใจเรียน ซึ่งพ่อเป็นหมอก็คาดหวังให้เธอเรียนหมอ แต่เธอก็ทำให้พ่อแม่เสียใจผิดหวังเรื่องการเรียนอยู่หลายครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือเธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนแต่สอบสัมภาษณ์ที่โรงเรียนที่สหรัฐอเมริกาไม่ผ่าน ไม่ได้เข้าเรียนทั้งที่สะพายกระเป๋าเข้าห้องเรียนไปเจอหน้าเพื่อนแล้ว แล้วถูกเพื่อนๆมองเหมือนตัวประหลาด แถมโฮสต์ผู้อุปการะในสหรัฐอเมริกา รับเด็กผู้ชายมาอยู่เพิ่มด้วย แต่คุณพ่อไม่อยากให้อยู่กับผู้ชาย โฮสต์คนนั้นก็ให้เธอออกไป เธอจึงรวบรวมความกล้า ถามเพื่อนว่า “มีใครอยากรับเราเป็นรูมเมทไหม?” ก็มีเพื่อนเกาหลีมาช่วย วันเสาร์อาทิตย์ก็ไปช่วยงานที่โบสถ์เขา นอกจากนี้ก็ยังพยายามสอบทุน รับสอนพิเศษเด็กเล็กๆบ้าง เพื่อหารายได้มาช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวที่ต้องส่งมาดูแลเธอ เพราะครอบครัวของเธอไม่ได้ร่ำรวยมากนัก น้องคนกลางพิการทางสมองต้องใช้เงินดูแลในแต่ละเดือนจำนวนมาก น้องคนเล็กก็กำลังเรียนอยู่
หลังจากนี้ จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ ให้หันกลับมาตั้งใจเรียน แม้ตอนแรกที่ไปภาษาไม่แข็ง ไม่กล้าพูด ก็อาศัยความขยันอ่านหนังสือภาษาอังกฤษบทหนึ่งอ่านอย่างน้อย 3 ครั้ง อันไหนแปลไม่ได้ หาครูช่วย ทำด้วยตัวเอง เรียนรู้ด้วยตัวเองตลอด เปิดยูทูบ กูเกิ้ล พยายามอย่างนี้จนกระทั่งเธอเก่งได้ สอบได้ที่หนึ่งของชั้นเรียน สาขาการเงิน และจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเนวาดา ด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง
และกลับมาทำงานที่ประเทศไทยด้วยตำแหน่งผู้จัดการวานิชธนกิจ ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งงานที่สูงมากสำหรับเด็กจบใหม่ ซึ่งเพื่อนๆ ต่างชมว่าเธอสวยขึ้นจนจำไม่ได้ เธอมองว่าการศึกษาคือรากฐานสำคัญ แต่ขณะเดียวกันผู้หญิงก็ต้องห้ามหยุดสวย หยุดพัฒนาดูแลตัวเอง
ดังนั้นเธอจึงส่งอัลบั้มรูปเหล่านี้ให้กับ ‘ทีมข่าววอยซ์ ออนไลน์’ เพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆทุกคน อย่าหยุดเรียนรู้ อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง และมุ่งทำตามความฝัน
“ชีวิตคนเรามันสั้นควรทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ...การประกวดนางงามอยู่ในใจนิ้งมาตลอดตั้งแต่เด็กแล้ว ก็เหมือนเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ ตอนเด็กๆ นิ้งก็อยากสวยอยากเป็นนางงามเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์...คือนิ้งรู้สึกว่านางงามไม่ได้สวยอย่างเดียว ต้องมีความรู้ ความสามารถ และเอาสิ่งเหล่านั้นที่เรามีมาช่วยคนอื่น นิ้งว่ามันคุ้มค่า”
เธอมองว่าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 คือโอกาสสำคัญที่เธอจะได้ผลักดันการพัฒนาการศึกษาให้กับเด็กไทย และคนพิการ ให้มีความรู้ความสามารถให้ทำงาน และช่วยเหลือตัวเองได้เหมือนคนทั่วไป พร้อมทั้งต้องการผลักดันการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานของผู้พิการอีกด้วย
นี่คือ ‘Empower Women’ ที่ไม่เคยหยุดคิด หยุดพัฒนาตัวเอง และเชื่อว่าตอนนี้เธอก็ยังไม่หนุดที่จะพัฒนาความงามทั้งภายนอก และภายใน คือ ความรู้ เพื่อก้าวไปสู่เวทีการประกวดระดับโลก ‘Miss Universe 2018’
ขอบคุณปัจจุบันภาพจาก instagram: ningsophidaa