นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. และบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ว่า การตรวจเยี่ยมวันนี้เพื่อมารับทราบปัญหา และข้อจำกัด
โดยที่ ขสมก. มีนโยบายเร่งด่วน 2 เรื่อง คือ การประมูลรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นสุดท้ายของการประมูล แต่ต้องรอบอร์ด ขสมก. ประชุมในวันที่ 20 ธันวาคม เพื่อวางแนวทางเจรจากับเอกชน อย่างไรก็ตาม มีเป้าหมายให้ได้รถเมล์ใหม่มาใช้ให้เร็วที่สุด หรือภายในเดือนพฤษภาคมปี 2561 อีกด้านหนึ่ง ได้เร่งรัด ขสมก. ให้สรุปแผนฟื้นฟูกิจการส่งคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร. ให้เรียบร้อย
ส่วนประเด็นการโอนย้าย ขสมก. ไปอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรุงเทพมหานคร หรือไม่ ขอฝากให้ฝ่ายจัดการ ขสมก. คิดและเสนอมาก่อน
ส่วนการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย บขส. นายไพรินทร์ ระบุว่า ขอให้ บขส.สรุปผลศึกษาการย้ายสถานีขนส่งหมอชิต กลับไปพื้นที่เดิมตรงข้ามสวนจัตุจักร ซึ่งมองว่าเป็นพื้นที่มีศักยภาพ แม้ขนาดไม่ใหญ่ แต่สามาถออกแบบและให้บริการประชาชนได้ รวมถึงให้ บขส. หาวิธีปรับตัวรับการแข่งขันจากสายการบินโลว์คอสด้วย
แนะขสมก.เปิด SandBox ทำพื้นที่ทดสอบเทคโนโลยี
ส่วนกรณี E Ticket และ Cash Box ที่ติดตั้งในรถเมล์ ขสมก. ที่ยังมีปัญหา นายไพรินทร์ เสนอว่า ในกรณีที่นำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้งาน ถ้าเห็นว่ามีระบบที่ดี ที่ผ่านมา อาจเสนอให้มีการจัดซื้อจัดจ้าง แต่สมัยใหม่นี้วิธีทดสอบการใช้เทคโนโลยี อย่างที่ธนาคารแห่งประเทศไทยทำพื้นที่ทดสอบเทคโนโลยี หรือ SandBox ซึ่งเปรียบกับกะบะทรายของเด็กเล็ก ๆได้เล่นได้ทดลองก่อน นำมาใช้จริง ดังนั้น หากจะมีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในอนาคต หากใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างเลย หน่วยงานสามารถเปิด SandBox ให้เป็นพื้นที่ทดลองในวงจำกัดก่อน แล้วค่อยนำมาใช้ในวงกว้างภายหลังได้
"เวลาเห็นอะไรดีๆ บางที่จะมีข้อจำกัดแบบไทยๆ ติดปัญหาเทคนิคบางอย่าง ดังนั้นก่อนจะจัดซื้อจัดจ้างแบบเก่า ก็ให้ลองใช้งานในพื้นที่ทดลองก่อนได้ อย่างที่ธนาคารแห่งประเทศไทย กับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ทำพื้นที่ทดลอง หรือ Sandbox โดยเชิญผู้สนใจมาทำพื้นที่ทดลองพิเศษสัก 3-5 เดือน แล้วติดตามดูว่ามีอุปสรรคอะไร แล้วปรับปรุงแก้ไข และค่อยทำเป็นข้อกำหนดจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหา ผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยี ที่ผู้ใช้หรือผู้เกี่ยวข้องยังไม่พร้อม อย่างที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดพื้นที่ให้ทดลองชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด ก่อนจะประกาศใช้ในวงกว้าง ซึ่งสำหรับ ขสมก. หากอนาคตจะเปลี่ยนระบบบางอย่างน่าจะทำให้พื้นที่ทดลองในวงจำกัดก่อน แล้วค่อยทำข้อกำหนดจัดซื้อจัดจ้างต่อไป อย่างวิธีจ่ายเงินค่ารถเมล์ ในเมืองจีนปัจจุบัน ผู้สูงอายุก็สแกนคิวอาร์โค้ดจากโทรศัพท์มือถือจ่ายค่ารถเมล์ได้ โดยไม่ต้องมีกล่องใดๆ ติดที่รถเมล์ ผมจึงเสนอ ขสมก.ว่า ลองคุยกับแบงก์ชาติให้รับการจ่ายค่ารถเมล์ผ่านคิวอาร์โค้ด แล้วทดลองกับรถเมล์สัก 1 สาย ถ้าเวิร์ค ก็ไม่ต้องมาเป็นกังวลเรื่องแคชบ็อกอย่างที่ผ่านมา" นายไพรินทร์กล่าว
สหภาพฯ ยื่น 9 ข้อเสนอรมช.ใหม่
ด้านนายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ยื่นเอกสารแจ้งความเดือนร้อนและเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา ขสมก.ให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ ทั้งหมด 9 ข้อ ได้แก่ 1) ให้เร่งรัดดำเนินการจัดหารถใหม่แทนรถเก่าที่หมดอายุการใช้งาน จำนวน 489 คัน ซึ่งปัจจุบันมีอายุใช้งานประมาณ 27-28 ปี
2) ให้เร่งรัดสั่งการผู้เกี่ยวข้องดำเนินการติดตั้งจีพีเอส และถอดการติดตั้งจีพีเอสในรถที่ไม่ใช้งาน พร้อมเร่งรัดติดตั้งระบบ E-Ticket ให้เป็นไปตามสัญญา
3) ให้พนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสารและพนักงานตำแหน่งอื่นๆ ที่ป่วยเป็นโรคจากการทำงาน ซึ่งสภาพร่างกายไม่สามารถปฏิบัติงานหน้าที่เดิมได้ ให้เข้าโครงการเกษียณก่อนกำหนด เพื่อให้ได้เงินก้อนสุดท้ายไปรักษาตนเอง โดยปัจจุบันมีพนักงานที่ป่วยจากการทำงานที่แสดงความจำนงค์ จำนวน 227 คน จากพนักงานทั้งหมดประมาณ 12,000 คน
4) ให้องค์การตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นและผลประโยชน์ทับซ้อนของพนักงานทุกตำแหน่ง
5) ให้องค์การติดตามหนี้สินร่วมเอกชนทุกประเภทที่ค้างชำระหรือหากผิดเงื่อนไขสัญญาให้ยกเลิกสัมปทาน โดยให้ฝ่ายกฎหมายขององค์การเร่งรัดหนี้สินตามกฎหมายต่อไป
6) ให้ทำสัญญาเหมาซ่อม โดยต่อสัญญาซ่อมบำรุงรถโดยสารเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี เพื่อซ่อมบำรุงอย่างต่อเนื่อง และจัดหาอะไหล่มารองรับการซ่อมบำรุงให้เกิดประสิทธิภาพการใช้บริการ
7) ให้รัฐบาลรับผิดชอบหนี้สินขององค์การฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ในฐานะหน่วยงานที่ให้บริการประชาชนด้วยต้นทุนต่ำ
8) เร่งรัดองค์การฯ ดำเนินการจำหน่ายรถที่ปลดระวาง เนื่องจากต้องเช่าสถานที่จอดรถของเอกชนจอดรถปลดระวาง ซึ่งต้องเสียค่าเช่าโดยไม่จำเป็น
และ 9) ให้สหภาพแรงงานฯ มีส่วนร่วมสังเกตการณ์ในการประชุมบอร์ดทุกครั้งและเป็นกรรมการองค์การฯ ในการประชุมฝ่ายบริหารเกี่ยวกับแผนนโยบาย หรือปรับโครงสร้างองค์การที่จะส่งผลกระทบต่อพนักงาน โดยยึดหลักธรรมาภิบาล โปร่งใสและตรวจสอบได้
"เรื่องการเปลี่ยนรถเมล์ให้ได้ใช้รถใหม่ 489 คัน เป็นเรื่องเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้รถใหม่ ส่วนเรื่องการติดตั้งระบบ E Ticket สหภาพฯ ต้องการให้ยกเลิกแคชบ็อก กรณีบริษัทเอกชนทำผิดสัญญา เพราะทุกวันนี้ยังมีปัญหาเกิดความสับสนวุ่นวายไปหมด อีกเรื่องที่สำคัญเร่งด่วนคือข้อ 5 กรณีหนี้สินรถร่วมเอกชน ที่ยังค้างอยู่พันกว่าล้านบาท ต้องหาวิธีติดตามเร่งรัดเอาเงินคืนมา ซึ่งเรื่องนี้ สหภาพฯ เสนอไปกับรัฐมนตรีช่วยมา 3 คนแล้ว และหวังว่า รมช. คนปัจจุบันจะดำเนินการเรื่องนี้ให้" นายวีระพงษ์
รายงานโดย : อังศุมาลิน บุรุษ