29 ม.ค. 2561 ศาลจังหวัดราชบุรี อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 2418/2559 ที่พนักงานอัยการจังหวัดราชบุรี เป็นโจทก์ ฟ้อง นายปกรณ์ อารีกุล กับพวกรวม 5 คน ตกเป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันดำเนินการเผยแพร่ข้อความ ภาพ ในช่องทางอื่นใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือมีลักษณะปลุกระดม โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ออกเสียง และขัดคำสั่งพนักงานสอบสวนที่ให้พิมพ์ลายนิ้วมือ โดยศาลตัดสินยกฟ้องความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 เนื่องจากเหตุพยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักพอที่จะตีความได้ว่ามีเจตนาแจกจ่าย-เผยแพร่ตามฟ้อง ส่วนความผิดฐานขัดประกาศ คปค.เรื่องให้พิมพ์ลายนิ้วมือ ปรับจำเลยที่ 1- 4 จำนวน 1,000 บาท ซึ่งจำเลยสารภาพ ลดโทษ เหลือ คนละ500บาท
ด้าน นายทวีศักดิ์ ระบุหลังศาลพิพากษายกฟ้องคดีนี้ว่า ศาลได้พิจารณาในประเด็นองค์ประกอบความผิดแจกจ่ายสติกเกอร์ โดยพยานฝ่ายโจทก์ไม่สามารถนำสืบแจกจ่ายสิ่งของได้ ศาลได้ยกฟ้องประเด็นนี้ แต่เรื่องเนื้อหา เอกสาร สติกเกอร์โหวตโน ไม่ได้ลงรายละเอียด เพราะศาลได้ยกฟ้องไปแล้ว
"ผมต่อสู้คดีเพราะเป็นผู้สื่อข่าว ซึ่งศาลไม่ได้พิจารณาตรงนี้ โดยเห็นว่าองค์ประกอบกระทำความผิดของจำเลยที่1 และคนอื่นไม่เข้าองค์ประกอบแล้ว แต่ที่มีความผิด มี 4 คนที่ไม่พิมพ์ลายนิ้วมือ ผิดตามคำสั่ง ประกาศ คปค. ปี2549 เรารับสารภาพตอนสืบพยาน ศาลให้ปรับเงิน เราสารภาพก็ลดค่าปรับเหลือ 500 บาท ในส่วนค่าปรับ 500 บาท ศาลบอกไม่ต้องจ่าย เพราะตอนถูกจับกุมได้ถูกควบคุม 1 คืน ชดเชยค่าปรับแล้ว"
นายทวีศักดิ์ ระบุว่า ไม่แน่ใจว่าทางอัยการ ซึ่งเป็นโจทก์จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอีกหรือไม่ เพราะยังมีระยะเวลาอีก 30 วันในการยื่นฟ้องต่อ แต่ส่วนจำเลยทั้ง 5 คนกำลังปรึกษาทนายว่าจะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่อยู่ในชุดจับกุมพวกเราทั้งหมดหรือไม่
สำหรับจำเลยทั้ง 5 คนประกอบด้วย นักกิจกรรม 4 คน และนักข่าว 1 คน ได้แก่ นายปกรณ์ อารีกุล นายอนุชา รุ่งมรกต นายอนันต์ โลเกตุ สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นายภานุวัฒน์ ทรงสวัสดิ์ชัย นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ และนายทวีศักดิ์ เกิดโภคา ผู้สื่อข่าวประชาไท
โดยคดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2559 ซึ่งนายปกรณ์ และกลุ่มเพื่อนเดินทางไปให้กำลังใจผู้ที่ถูกออกหมายเรียกในคดีประชามติอีกคดีหนึ่งที่จังหวัดราชบุรี โดยมีนายทวีศักดิ์ ผู้สื่อข่าวประชาไท ติดรถไปทำข่าวด้วย ต่อมา ทั้ง 4 คนถูกจับกุมและแจ้งข้อหาว่าร่วมกันแจกจ่ายสติกเกอร์โหวตโน ขณะที่ภานุวัฒน์ นักกิจกรรมนักศึกษาอีกคนถูกจับกุมมาด้วย รวมเป็น 5 คน